กองกำลังติดอาวุธของอิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยอาวุธเคมีโจมตีเมืองอเลปโป โดยพวกเขาพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดการยกเลิกข้อตกลง Sochi ซึ่งสร้างเขตปลอดภัยในจังหวัดอิดลิป ตามการแถลงของหัวหน้าคณะเจรจาระดับสูง Naser al-Hariri ทางสำนักข่าว al-Hadath
คณะกรรมการการเจรจาระดับสูงเป็นองค์กรที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนฝ่ายค้านในซีเรียในการเจรจาสันติภาพที่เจนีวาตั้งแต่ปี 2016
เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด ได้ถล่มพื้นที่ปลอดภัยในจังหวัดอิดลิปฆ่าพลเรือน 9 คนที่ส่วนมากเป็นเด็กเมื่อวันเสาร์ที่(24 พฤศจิกายน)ผ่านมา ขณะที่สื่อของบาชาร์ อัล-อัสซาด รายงานอ้างว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นในอเลปโปทำให้ผู้บาดเจ็บได้รับผลกระทบที่ระบบการหายใจ
ข้อตกลงในการสร้างเขตปลอดทหารได้ยับยั้งการรุกรานของกองกำลังบาชาร์ อัล-อัสซาดต่อจังหวัดอิดลิป รวมทั้งบริเวณใกล้เคียงของจังหวัดอเลปโป และจังหวัดฮามา
เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมารัสเซียกล่าวหาว่าพวกก่อการร้ายพยายามที่จะทำลายข้อตกลงดังกล่าวในขณะที่กลุ่มนักรบฝ่ายต่อต้านซีเรียกล่าวว่ากองทัพซีเรีย และกองกำลังชีอะห์ ได้ก่อเหตุโจมตีเข้าใส่พื้นที่ปลอดภัยมาแล้วหลายครั้ง
Abdul-Salam Abdul-Razzaq ผู้บัญชาการทหารกองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติซีเรีย (FNL) กล่าวย้ำว่าฝ่ายต่อต้านซีเรียไม่มีก๊าซเคมีหรือความสามารถในการโจมตีด้วยอาวุธเคมี “นี่คือเรื่องโกหก พวกเราไม่ได้มีอาวุธเคมีหรือห้องปฏิบัติการเพื่อจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับผลิตอาวุธเคมี และพวกเขาไม่มีวิธีการใช้งานอาวุธเหล่านี้” เขากล่าวในทวีต
“การปรากฏตัวของกองกำลังอิหร่านในซีเรีย และโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ เป็นการปรากฎตัวที่เกิดขึ้นก่อนที่อิหร่านจะมีการจัดตั้งสถานที่ทางทหาร ศูนย์ฝึกอบรม และสำนักงานในภาระกิจอื่น ๆ อีกหลายแห่ง” Naser al-Hariri ที่เพิ่งได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าคณะกรรมการเจรจาขั้นสูงกล่าว
เขาเสริมว่า “อิหร่านเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาในซีเรีย และการกระทำ หรือการตัดสินใจ ในความพยายามที่จะลดหรือทำให้ความสามารถทางทหารของอิหร่านอ่อนแอลง จะส่งผลดีต่อซีเรีย แต่การกระทำสิ่งนั้นเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ”
ที่มา อัล-อาระบียะห์
