มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังจากคนร้ายควงปืนบุกเข้าไปในมัสยิดที่ตั้งอยู่ในเมือง Baerum ย่านชานเมืองใกล้กับกรุงออสโลเมืองหลวงของนอร์เวย์ ขณะที่ผู้ก่อเหตุหนีไม่รอดถูกจับได้ ตามการเปิดเผยของตำรวจ
สำนักข่าว DW รายงานว่าการยิงเกิดขึ้นภายในมัสยิดใกล้เมืองหลวงของนอร์เวย์เมื่อวันเสาร์(10 สิงหาคม)ทำให้ผู้บาดเจ็บหนึ่งคน ตามการเปิดเผยของตำรวจ
ตำรวจได้รับการแจ้งเหตุยิงกันที่ศูนย์อิสลามอัล – นูร์ใน Baerum ชานเมืองของกรุงออสโลเมื่อเวลาประมาณ 16:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (21:00 ตามเวลาประเทศไทย)
เหยื่ออายุ 75 ปี เป็นสมาชิกมาร่วมกิจกรรมที่มัสยิดตามการเปิดเผยของ Ifran Mushtag ผู้ดูแลมัสยิดบอกกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น TV2
Mushtag กล่าวอีกว่าคนร้ายสวมชุดเกราะและหมวกกันน็อกเป็นชายหนุ่มผิวขาว และเขาถูกจับตัวได้โดยสมาชิกของมัสยิดก่อนตำรวจมาถึง
เขาบอกอีกว่าคนร้ายมีปืนอย่างน้อย 2 กระบอกที่ดูเหมือนจะเป็นปืนลูกซอง และปืนพก โดยเขาพังประตูกระจกเข้ามาในมัสยิดก่อนก่อเหตุกราดยิง
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าผู้ต้องสงสัยถูกจับกุม และไม่มีข้อบ่งชี้ว่ามีคนเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ “เขาเป็นชายหนุ่มชาวนอร์เวย์ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง” โฆษกตำรวจ Rune Skjold กล่าวในการแถลงข่าวเย็นวันเสาร์
Skjold เสริมว่าผู้ต้องสงสัยเป็นที่รู้จักของตำรวจก่อนเหตุการณ์ แต่ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นคนที่มี “ประวัติทางอาญาหรือไม่”
ตำรวจออสโลโพสต์ลงบน Twitter ว่ามีคนถูกยิง แต่ต่อมาก็กล่าวว่ามีคนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่ได้อธิบายว่าเป็นบาดแผลจากคมกระสุนปืนหรือไม่
ผู้หญิงคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับมือปืนถูกพบว่าเสียชีวิตในบ้านใกล้กับที่เกิดการโจมตี “เราคิดว่านี่เป็นความตายที่น่าสงสัย … คนตายเกี่ยวข้องกับคนร้าย” Skjold กล่าวกับผู้สื่อข่าว
BBC รายงานว่า Skjold บอกว่าผู้ต้องสงสัย “อายุประมาณ 20 ปีพลเมืองชาวนอร์เวย์จากพื้นที่”
ผู้ต้องสงสัยได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามตำรวจตามการเปิดเผยของตำรวจในวันอาทิตย์(11)
เมื่อคืนนี้มีการพยายามสอบสวนผู้ต้องหาหลังจากการยิงมัสยิด และการฆาตกรรมใน Baerum แต่เขาไม่เปิดปากพูดกับตำรวจ “Rune Skjold โฆษกตำรวจออสโลกล่าวในการแถลง
นอกจากนี้ตำรวจยังบอกอีกว่าได้ตั้งข้อหาฆาตกรรม หลังพบศพน้องสาวของเขาวัย 17 ปี พร้อมระบุว่าเขาต้องสงสัยเป็นกลุ่มขวาจัด และต่อต้านผู้อพยพ หลังพบว่าเขาสนับสนุน Vidkun Quisling อดีตผู้นำนอร์เวย์ในยุคนาซี
การโจมตีเกิดขึ้นในช่วงก่อนวันเฉลิมฉลองอิดิ้ลอัฎฮาของชาวมุสลิม และตำรวจกล่าวว่าพวกเขากำลังพิจารณาว่าจะต้องดำเนินการเพื่อ “ปรับปรุงความปลอดภัย” หรือไม่
เมื่อต้นปีที่ผ่านมามัสยิดแห่งนี้ได้ดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษหลังจากมีผู้เสียชีวิตกว่า 50 คนในมัสยิดนิวซีแลนด์สองแห่งโดยกลุ่มหัวรุนแรงคลั่งผิวขวา
