เมื่อวันพุธ (11 ธันวาคม) วุฒิสภาอินเดียได้ยกมือผ่านร่างกฎหมายสัญชาติฉบับแก้ไขด้วยคะแนน 125 – 105 ทำให้รัฐบาลจากกลุ่มฮินดูหัวรุนแรงของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีสามารถให้สัญชาติแก่ผู้อพยพหลายล้านคนที่เข้าเมืองผิดกฎหมายก่อนปี 2015 จาก 3 ประเทศยกเว้นผู้นับถือศาสนาอิสลาม ส่งผลให้เกิดการประท้วงอย่างรุนแรงทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สถานีรถไฟจำนวนหนึ่งในรัฐอัสสัมถูกโจมตี
เมื่อวันพุธที่ผ่านมาร่างกฎหมายสัญชาติฉบับแก้ไขของอินเดียในที่สุดก็ผ่านสภาสูงอินเดียอย่างที่คาดหมายด้วยเสียงสนับสนุน 125 เสียงต่อเสียงค้าน 105 เสียงในวันพุธ(11) หลังจากร่างนี้ได้รับการเห็นชอบจากสภาล่างอินเดียอย่างรวดเร็วในเวลาหลังเวลาเที่ยงคืนของวันอังคาร(10)
นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ได้แสดงความยินดีผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “ถือเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์สำหรับอินเดีย และคติธรรมด้านความเมตตา และความเป็นพี่น้องของพวกเรา”
และเสริมต่อว่า “กฎหมายนี้จะช่วยบรรเทาความยากลำบากของคนจำนวนมากที่เผชิญหน้ากับการถูกดำเนินคดีเป็นเวลาหลายปี”
อย่างไรก็ตามมีคำประกาศจากผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายนี้ที่จะนำเรื่องขึ้นสู่ศาลสูงสุดอินเดียโดยชี้ให้เห็นว่า เป็นการละเมิดพื้นฐานว่าด้วยความเท่าเทียม และระบบแยกรัฐออกจากศาสนาที่ถูกระบุไว้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญอินเดีย
ซึ่งนอกจากที่ออกกฎหมายพุ่งเป้าไปที่ชุมชนชาวมุสลิมแล้ว กฎหมายฉบับนี้ยังทำให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในรัฐภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียที่ต่างไม่พอใจกับการไหลบ่าเข้ามาของชาวฮินดูจากบังกลาเทศ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะได้รับสิทธิ์ได้สัญชาติภายใต้กฏหมายใหม่
โดยเมื่อวันพุธกองกำลังทหารอินเดียถูกส่งเข้ารัฐตริปูระ ส่วนรัฐอัสสัมถูกสั่งให้อยู่ในความพร้อมของการประท้วงที่ย่างเข้าสู่วันที่ 3
ล่าสุดว่า เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าเกิดเหตุกลุ่มผู้ประท้วงทำลาทรัพย์สินสาธารณะและพยายามจุดไฟที่สถานีรถไฟ 4 แห่งในรัฐอัสสัมวันพฤหัสบดี(12)
พบการให้บริการทางรถไฟถูกปิดลงหลังจากนั้นทำให้มีผู้โดยสารตกค้างเป็นจำนวนมาก ด้านสายการบินอินดิโก(IndiGo)กล่าวว่า ได้สั่งยกเลิกเที่ยวบินเนื่องมาจากเกิดความไม่สงบภายในรัฐอัสสัม
ขณะที่สื่ออินเดียรายงานเพิ่มเติมว่า การให้บริการรถไฟระดับท้องถิ่นถูกปิดลงชั่วคราวในรัฐตริปุระ และรัฐอัสสัม และมีการสั่งระงับชั่วคราวสำหรับรถไฟเส้นทางยาวที่เมืองกูวาฮาตี(Guwahati) ของรัฐอัสสัม ส่วนสายการบิืนแอร์ อินเดียประกาศยกเลิกเที่ยวบินโกลกาตา -ดิบูการ์ฮ์(Kolkata-Dibugarh) และสายการบินวิสตารา(Vistara)สั่งยกเลิกเที่ยวบินจำนวน 2 เที่ยวไปยังกูฮาวาตีและดิบูการ์ฮ์
และทำให้ในวันพุธ(11)รัฐมนตรีต่างประเทศบังกลาเทศ เอ.เค. อับดุล โมเมน( A.K. Abdul Momen)ออกมาโต้ว่า บังกลาเทศไม่ได้กดขี่ชนกลุ่มน้อย “ในประเทศของเรา ความกลมเกลียวทางศาสนามีอยู่ในระดับสูง ไม่มีใครจากศาสนาอื่นได้รับการกดขี่ที่นี่…พวกเรามองชนกลุ่มน้อยด้วยสายตาที่เท่าเทียมและในฐานะประชาชนชาวบังกลาเทศ”
ซึ่งในวันจันทร์(9)คณะกรรมาธิการด้านกิจการเสรีภาพทางศาสนาระหว่างประเทศประจำสภาคองเกรสออกมาชี้ถึงกฎหมายสัญชาติอินเดียฉบับใหม่ว่า “เป็นการเปลี่ยนอย่างอันตรายที่นำไปสู่ทิศทางที่ผิด”
