นักเคลื่อนไหวต่อต้านอิสลาม Ravichandaran ซึ่งเป็นผู้จัดทำช่องบน YouTube ภายใต้ชื่อ Dalit Camera ได้ประกาศชะฮาดะห์ หันหน้าสู่แนวทางแห่งศาสติ จากความพยายามในการค้นหา “ความเคารพตนเองและความเท่าเทียม” หลังเขาพบสิ่งเหล่านี้ในชุมชนมุสลิม เข้าร่วมกับกลุ่มมุสลิม และเปลี่ยนชื่อเป็น Mohammed Raees เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นที่รัฐทมิฬนาฑู เมื่อเดือนมกราคม 30
เว็บไซด์ข่าว caravandaily รายงานว่าเขาได้ตอบคำถามถึงชาวชุมชนต่อกิจกรรมที่เขาทำมาในอดีต Ravichandaran กล่าวว่า ณ ตอนนี้พวกเขาไม่สนับสนุนเขาหรือต่อต้านเขา “ พวกเขาไม่ได้ต่อต้านการกระทำของผม เพราะพวกเขาไม่ได้คัดค้านสิ่งที่เป็นความพยายามอย่างแท้จริงของผมที่จะมุ่งสู่การเคารพตนเอง”
เขากล่าวว่าที่ชุมชน Dalit ของเขานั้นต่อต้านชาวมุสลิม และเขาเองก็ต่อต้านมุสลิมเช่นกัน เขาเคยเชื่อว่าชาวมุสลิมเป็นคนสกปรก และชาวมุสลิมสนับสนุนผู้ก่อการร้าย แต่หลังจากได้มีส่วนร่วมกับสมาชิกบางส่วนขององค์กรนักศึกษามุสลิมที่มหาวิทยาลัยนานาชาติ (EFLU) ความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับชาวมุสลิมก็เปลี่ยนไป
“ชีวิตของผมได้รับ 24X7 เกี่ยวกับวรรณะในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ผมใช้เวลานานกว่าจะถึงจุดนี้ ผมต่อต้านชาวมุสลิมอย่างหนัก ผมเคยคิดแผนบางอย่างเกี่ยวกับชาวมุสลิมในใจของผม หรือสิ่งที่ผู้คนเคยพูดเกี่ยวกับพวกเขา ผมสามารถเปลี่ยนความคิดของผมหลังจากความสัมพันธ์ที่ยาวนาน 4-5 ปีกับเพื่อนของผม “Raees กล่าว
ในการถ่ายทอดสดที่เปลี่ยนไปในหน้า Facebook ของเขาในชื่ Dalit Camera เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม Raees กล่าวว่า:“(ผม)ได้เข้ารับอิสลามสำหรับการเคารพตนเองและศักดิ์ศรีของตนเอง ผมกำลังกำลังก้าวออกจากลัทธิฟาสซิสต์ และฮินดูที่ผมเชื่อมาตลอด 38 ปี ตลอดหลายปีที่ผ่านมาผมพบว่าตัวเองได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดี และถูกเลือกปฏิบัติ หลังจากการค้นคว้า 10 ปี ผมได้พบความสงบที่ห้องน้ำในมัสยิด…และผมพบประตูสู่การเคารพตนเอง และชีวิตที่สง่างาม ‘อัสลามุอลัยกุม’”
Raees ผู้ซึ่งสำเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาขั้นสูงของอินเดีย Shimla มาจากชุมชน Chakkiliyan ในชุมชนชั้นสูงของเมือง Ooty ในรัฐทมิฬนาฑู เมื่อพูดถึงชุมชน Dalit ของเขาเขากล่าวว่าชุมชนของเขากำลังเผชิญกับการเลือกปฏิบัติในชีวิตทางสังคม และสมาชิกของชุมชนได้รับการปฏิบัติเหมือนพลเมืองชั้นสอง
“เราอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เป็นภูเขา ที่นั่นวรรณะสูงอาศัยอยู่ในพื้นที่ภูเขา และวรรณะต่ำอาศัยอยู่ที่ตีนเขา ชุมชนของผมเป็นชุมชนที่ถูกขับไล่ Scavengers เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่ไม่ได้รับการพิจารณาเทียบเท่ากับเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่น ๆ ไม่มีกฎสำหรับพวกเขา กฎมีไว้สำหรับเพ้อฝันของวรรณะชั้นสูง คนของเราไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า หรือนั่งในสำนักงาน พวกเขาได้รับอนุญาตให้ยืนอยู่หน้าสำนักงานเท่านั้น” Raees กล่าว
“นี่เป็นแผนกหนึ่งที่ไม่มีกฎ Scavengers ไม่มีเวลาทำงาน พวกเขาไม่มีวันหยุด พวกเขาไม่มีนโยบาย ตอนนี้ทำงานในสัญญาจ้าง แต่พวกเขาได้มอบงานให้ผู้รับเหมาอย่างสมบูรณ์ แต่สถานการณ์ในขณะนี้แย่ลง แม้แต่ระดับต่ำสุดของการเคารพตนเองก็หายไป สำหรับพวกเขาในที่ทำงาน” เขากล่าว
Ravichandaran กล่าวว่างานวิจัยของเขาพบว่าคนเก็บขยะที่มาจาก Chakkilliyan, Valmiki และชุมชนอื่น ๆ ถือเป็นผู้อพยพข้ามประเทศอินเดียในขณะที่พวกเขาพูดภาษาถิ่นที่แตกต่างกัน “ในเบงกอลนั้นมีการกล่าวกันว่าพวกที่กินขยะ เป็นพวกที่มาจากแคว้นมคธ ในเกรละ พวกเขากล่าวว่าคนเหล่านี้มาจากทมิฬนาฑู ในรัฐส่วนใหญ่ถือว่าเป็นคนนอก”
เขากล่าวว่าสองสิ่งในอิสลามนั้นสำคัญมากสำหรับเขา หนึ่งคือห้องน้ำในมัสยิด และที่สองคือพื้นดินที่ฝังศพ เขาบอกว่าเขาไม่พบห้องน้ำในพระวิหารหรือโบสถ์ใด ๆ แต่เขาพบห้องน้ำในมัสยิด Dalits ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่มัสยิดแต่ไม่ใช่สำหรับวัด
Ravichandaran ใช้งาน Dalit Camera มาตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งครอบคลุมความโหดร้ายกับ Dalits
เขากล่าวว่าด้วยประสบการณ์ในการรายงานข่าวเกี่ยวกับความโหดร้ายของ Dalit ผ่านช่อง Dalit Camera เขาได้ข้อสรุปว่าการเคลื่อนไหวของ Dalit ในอินเดียเป็น “แฟนคลับ” ซึ่งไม่ได้ให้การแก้ปัญหาเชิงอุดมการณ์ต่อปัญหาที่แท้จริงของ Dalits