มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 คนในเมืองหลวงของอินเดียจากการปะทะรุนแรงระหว่างกลุ่มชาวฮินดูและชาวมุสลิม เนื่องจากกฎหมายสถานะพลเมืองฉบับใหม่ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอาวุโส บอกมีความเงียบสงบอย่างน่ากลัวในพื้นที่จลาจลวันพุธ (26)
“มีผู้ป่วยอาการสาหัส 15 ราย” เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจากโรงพยาบาล กูรู เต็ก บาฮาดูร์ บอกรอยเตอร์
ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบ 200 ราย โดยศาลสูงของอินเดียได้ออกคำสั่งให้ทางการต้องดำเนินการให้มั่นใจว่าผู้บาดเจ็บจะได้รับการรักษาในสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทุกราย
ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา ระเบิดควัน และกระสุนปืนลม แต่ไม่สามารถสลายฝูงชนที่ขว้างปาก้อนหินในความรุนแรงที่บานปลายเกินการควบคุมเมื่อวันจันทร์ (24)
อาหรับนิวส์รายงานว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันจันทร์(24)ต่อเนื่องถึงวันอังคาร(25)บีบบังคับให้ผู้อยู่อาศัยใกล้เคียงต้องหนีออกจากบ้านหลังจากกลุ่มหัวรุนแรงได้บุกทำลายบ้านเรือน, มัสยิด และตลาดยางรถยนต์ และรวมทั้งโรงเรียนสองแห่งถูกเผา
Arvind Kejriwal มุขมนตรีของนิวเดลีซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของรัฐบาลได้เรียกร้องให้กองทัพประกาศเคอร์ฟิว และเข้ามาควบคุมสถานการณ์
“ตำรวจแม้จะมีความพยายามอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ และฟื้นคืนความมั่นใจได้” Kejriwal กล่าวในทวีต
เมื่อเช้าวันพุธ(26)ชาวบ้านเริ่มทำความสะอาดภายในมัสยิดที่ถูกเผา เหลือไว้เพียงขยะสีดำจำนวนมากที่รวมถึงอัลกุรอานที่ถูกเผาไหม้ในช่วงเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ Ashok Nagar
วิดีโอที่แพร่กระจายบนโซเชียลมีเดีย และได้รับการยืนยันโดย AFP แสดงให้เห็นว่ากลุ่มหัวรุนแรงได้ทำลายลำโพงบนหออาซานของมัสยิด และติดตั้งธงศาสนาฮินดูขึ้นแทนที่
ชาวบ้านกล่าวหาว่าตำรวจไม่ทำอะไรเลยเพื่อช่วยยับยั้งความรุนแรงที่เกิดขึ้น
“เราพยายามโทรหาตำรวจหลายครั้ง…พวกหัวรุนแรงกำลังเข้ามาในละแวกของเราพร้อมร้องตะโกน ‘ไชยศรีราม(Jai Shree Ram)’” Naeem Malik กล่าว
“แต่ตำรวจไม่ได้ช่วยเราเลย เราพยายามช่วยผู้หญิงให้ได้หนีออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย แต่ตำรวจกลับไล่ทุบตีพวกเราแทน” เขากล่าวพร้อมแสดงให้เห็นบาดแผลที่ขา และมือของเขา
ในหลายพื้นที่รถดับเพลิงพยายามที่จะดับไฟในช่วงข้ามคืนที่ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยควันจากจากรถยนต์, มอเตอร์ไซค์, ร้านค้า และบ้านเรือน ที่ถูกเผา
“พวกเขาบอกว่าเราไม่ใช่ชาวอินเดีย แต่เราเป็นคนอินเดียโดยสายเลือด” Farhat อายุ 22 ปีนักศึกษาอิสลามศึกษากล่าวในร้านของพ่อของเขา
“ไม่มีตำรวจในท้องถนนทั้งกลางคืน และกลางวัน”
พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่อยู่อาศัยของผู้อพยพที่ยากจนส่วนใหญ่จากที่อื่น ๆ ในอินเดียที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงโดยสร้างที่พักง่ายๆ เป็นกระท่อมและบางคนหนีออกจากพื้นที่หลังความรุนแรงเกิดขึ้น
“เป็นการดีกว่าที่จะออกไปจากที่นี่ ทำไมต้องมาตายที่นี่?” ช่างตัดเสื้อคนหนึ่งกล่าวขณะที่เขาเตรียมจะกลับบ้านไปที่หมู่บ้านของเขาทางตอนเหนือของอินเดีย
การปะทะดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการมาเยือนอินเดียของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในความรุนแรงระหว่างผู้ชุมนุมสนับสนุนและต่อต้านกฎหมายสถานะพลเมืองฉบับใหม่ ที่เสนอโดยรัฐบาลชาตินิยมฮินดูของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ในขณะที่ทรัมป์ ไม่ได้แสดงความเห็นใดต่ออินเดียเกี่ยวกับกฎหมายที่ถูกระบุว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนฉบับนี้
เมืองหลวงอินเดียเป็นจุดศูนย์กลางการประท้วงต่อต้านกฎหมายสถานะพลเมืองฉบับแก้ไข (Citizenship Amendment Act) ซึ่งเปิดทางให้ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมจากสามประเทศเพื่อนบ้านอินเดียสามารถขอรับสถานะพลเมืองอินเดียได้ง่ายขึ้น
นักวิจารณ์ ระบุว่า กฎหมายดังกล่าวมีอคติต่อชาวมุสลิมและบ่อนทำลายรัฐธรรมนูญแบบฆราวาสของอินเดีย พรรคภารติยะ ชานตะ ปฏิเสธว่า พวกเขาไม่ได้มีอคติใดๆ ต่อชาวมุสลิมกว่า 180 ล้านคนของประเทศนี้
เมื่อวันอังคาร (25) พยานผู้เห็นเหตุการณ์รายงานว่า กลุ่มม็อบถือไม้ ท่อ และก้อนหินเดินตามถนนในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของเดลี ท่ามกลางเหตุวางเพลิง ลักขโมย และปาก้อนหิน กลุ่มควันสีดำลอยขึ้นจากตลาดยางรถที่ถูกจุดไฟเผาในพื้นที่ดังกล่าว ในขณะที่รถดับเพลิงหลายคันรุดเข้าควบคุมเพลิง
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ระบุว่า มีเสียงปืนดังในพื้นที่ดังกล่าวด้วย และผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากมีบาดแผลถูกยิง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานการปะทะใดๆ ในวันพุธ (26)