ทีมสืบสวนปาเลสไตน์ยัน “อาราฟัต” ถูกอิสราเอลลอบสังหารที่ รพ.ในปารีส

หัวหน้าทีมสืบสวนปาเลสไตน์ออกมาประกาศความเชื่อมั่นอีกครั้งเมื่อวันอังคาร (10 พฤศจิกายน) ว่ารัฐบาลอิสราเอลอยู่เบื้องหลังแผนลอบสังหาร “ยัสเซอร์ อาราฟัต” อดีตผู้นำคนสำคัญของปาเลสไตน์ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงปารีส

คำกล่าวของเตาฟีก ติราวี หัวหน้าทีมสืบสวนปาเลสไตน์ มีขึ้นในช่วงครบรอบ 11 ปีการเสียชีวิตของ อาราฟัต และห่างมาเพียง 2 เดือนหลังผู้พิพากษาฝรั่งเศสสั่งปิดคดีโดยไม่มีการตั้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ผู้ใด

“คณะกรรมการสอบสวนสามารถระบุได้ว่า ใครคือมือสังหารอดีตประธานาธิบดียัสเซอร์ อาราฟัต” ติราวี ซึ่งเริ่มต้นทำคดีนี้ตั้งแต่ปี 2009 ระบุ

“อิสราเอลอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” เขากล่าวโดยระบุว่า “เรายังต้องการเวลาอีกสักหน่อยเพื่ออธิบายขั้นตอนการลอบสังหารให้แน่ชัด”

อาราฟัตซึ่งเคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงขณะอยู่ที่สำนักงานของเขาในเมืองรามัลเลาะห์ เขตเวสต์แบงก์ ระหว่างที่ถูกกองกำลังอิสราเอลปิดล้อมมาเป็นเวลานาน จนเมื่ออาการทรุดหนักเขาถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลทหารเพอร์ซีชานกรุงปารีส และเสียชีวิตเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2004 ขณะมีอายุได้ 75 ปี

เมื่อปี 2012 นางซูฮา ภรรยาหม้ายของอาราฟัต ได้ยื่นฟ้องต่อศาลเขตนองแตร์ โดยระบุว่าสามีถูกลอบสังหาร ส่งผลให้ต้องมีการเปิดหลุมฝังศพอาราฟัตในปีเดียวกัน เพื่อให้ทีมผู้เชี่ยวชาญ 3 ชุดจากฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และรัสเซีย ได้เก็บตัวอย่างทางชีวภาพประมาณ 60 ชิ้นไปตรวจสอบ

ชาวปาเลสไตน์จำนวนไม่น้อยเชื่อว่าอาราฟัตถูกอิสราเอลวางยาพิษ โดยมีบุคคลใกล้ชิดของอดีตผู้นำปาเลสไตน์สมรู้ร่วมคิดกับอิสราเอล

ก่อนหน้านี้ ห้องปฏิบัติการในเมืองโลซานน์เคยนำตัวอย่างทางชีวภาพจากสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวของอาราฟัต ที่ตกเป็นสมบัติของภรรยาหม้ายของเขามาตรวจสอบ และพบ “พอโลเนียม” สารกัมมันตรังสีที่มีอันตรายสูงเกินระดับปกติ แต่ไม่ได้สรุปออกมาแน่ชัดว่าอาราฟัตตายเพราะถูกพิษดังกล่าว

อันตรายจากพิษของพอโลเนียม-210 เริ่มเป็นที่รู้จักแพร่หลายในปี 2006 เมื่อ อเล็กซานเดอร์ ลิตวิเน็นโก อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองรัสเซียซึ่งผันตัวมาเป็นศัตรูของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ถูกลอบสังหารที่กรุงลอนดอน และผลชันสูตรก็พบไอโซโทปพอโลเนียมปริมาณสูงอยู่ในร่างของศพ

ทีมสืบสวนฝรั่งเศสประกาศปิดคดีนี้ลงโดยไม่ตั้งข้อหาใครเพิ่ม เช่นเดียวกับทีมสืบสวนของรัสเซีย ขณะที่ภริยาหม้ายของอาราฟัต ก็ยังไม่ถอดใจ และได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของเมืองน้ำหอมแล้ว

ความคิดเห็น

comments