คนอเมริกันเข้าชื่อขอ “เปิดบ้าน” ให้ที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยซีเรีย

ชาวอเมริกันกว่าพันคนเสนอที่จะรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของพวกเขา พร้อมทั้งเข้าชื่อเรียกร้องผ่านเว็บไซต์ให้รัฐบาลสหรัฐฯ เปิดพรมแดนรับผู้อพยพที่หนีสงครามกลางเมืองเข้าประเทศเพิ่มขึ้น

ชาวอเมริกันเกือบ 1,300 คนร่วมลงชื่อผ่านเว็บไซต์ MoveOn.org โดยขอร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยกเลิกข้อจำกัดในการรับผู้ลี้ภัยซีเรีย ในขณะที่สหภาพยุโรปกำลังเผชิญวิกฤตผู้อพยพครั้งรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์

องค์การสหประชาชาติระบุว่า มีพลเมืองซีเรียกว่า 4 ล้านคนที่ลี้ภัยออกนอกประเทศหลังสงครามกลางเมืองปะทุขึ้นเมื่อต้นปี 2011

สหรัฐฯ เพิ่งรับผู้ลี้ภัยซีเรียเข้าไปตั้งถิ่นฐานเพียง 1,500 คนเท่านั้น ซึ่งทำเนียบขาวระบุว่า รัฐบาลกำลังพิจารณามาตรการตอบสนองที่เหมาะสมต่อวิกฤตผู้อพยพครั้งใหญ่ซึ่งอาจรวมถึงการให้ที่พักพิงเพิ่มเติม

สาธุคุณ เอเวอเร็ตต์ แช็ตทัค บาทหลวงวัย 59 ปี จากโบสถ์เบรธเรนในเมืองมิลล์ครีก รัฐมินนิโซตา เป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าชื่อขอรับผู้ลี้ภัยซีเรียมาดูแล โดยระบุว่า การเปิดบ้านรับคนเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอเมริกันที่ยินดีต้อนรับผู้อพยพเสมอ

An Iraqi refugees feeds her baby as she wait to cross Greece's border with Macedonia, near the Greek village of Idomeni, September 7, 2015. Thousands of migrants and refugees were crowding at Greece's border with Macedonia on Monday morning, their entry slowly rationed by Macedonian police. REUTERS/Yannis Behrakis

“ยิ่งไปกว่านั้น เรายังสมควรแบ่งเบาความรับผิดชอบ (จากสงครามซีเรีย) เพราะมันเป็นผลพวงจากการที่สหรัฐฯ เข้าไปแทรกแซงและเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในตะวันออกกลาง คลื่นผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากเรื่องนั้น” แช็ตทัคกล่าว โดยอ้างถึงการที่สหรัฐฯ ส่งทหารบุกอิรักเมื่อปี 2003

เวนดี วิลสัน-มิลเลอร์ วัย 40 ปี จากเมืองสตูดิโอซิตี รัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า เธอตัดสินใจเข้าชื่อเพราะวิกฤตการณ์ในซีเรียมีแนวโน้มจะไม่จบง่ายๆ และความทุกข์ยากลำบากของผู้ลี้ภัยก็เป็นปัญหาเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันแก้

วิลสัน-มิลเลอร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเจริญพันธุ์และคุณแม่ลูกสอง ยืนยันว่า สหรัฐฯและครอบครัวของเธอมีศักยภาพพอที่จะช่วยเหลือผู้ลี้ภัยเหล่านั้นได้

“ถ้ารัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจเปิดพรมแดน และพูดคำเดียวว่า โอเค เราจะรับผู้ลี้ภัยเพิ่มขึ้นนะ แต่ยังต้องการครอบครัวที่อาสาจะช่วยเหลือมากกว่านี้… ฉันก็จะเสนอตัวทันที”

ผู้ที่เข้าชื่อผ่านระบบคำร้องออนไลน์ของเว็บไซต์ MoveOn มีทั้งครอบครัว, คู่รักหนุ่มสาว, นักศึกษา, คู่สามีภรรยาสูงวัยที่ลูกๆ ย้ายออกไปมีครอบครัวแล้ว รวมถึงกลุ่มอื่นๆ ที่คิดว่าพวกเขาสามารถให้ที่พักพิงแก่ผู้คนที่หนีความรุนแรงมาจากซีเรีย

แชนนอน เลห์เนิร์ต บราวน์ จากรัฐวอชิงตัน เขียนบนเว็บไซต์ว่า เธอมีบ้านเคลื่อนที่ซึ่งสามารถเอามาซ่อมแซมใหม่ได้ ในขณะที่ผู้หวังดีรายอื่นๆ แม้จะยินดีต้อนรับผู้ลี้ภัยเช่นกัน แต่ก็แสดงความกังวลว่าจะมีพวกอิสลามิสต์หัวรุนแรงแฝงตัวเข้ามาในสหรัฐฯ

“ฉันขอภาวนาอย่าให้มีผู้ก่อการร้ายปลอมตัวเป็นผู้ลี้ภัยเข้ามาในประเทศเราเลย” แพ็ตติ เพอร์รี จากเมืองแครนเบอร์รีเลค รัฐนิวยอร์ก กล่าว

ความคิดเห็น

comments