นักวิชาการมุสลิมระดับโลกออกมาเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กำหนดให้ “การดูหมิ่นศาสนา” เป็นสิ่งผิดกฎหมาย และกระตุ้นให้ตะวันตกปกป้องชุมชนมุสลิม ภายหลังนิตยสารแนวเสียดสี สร้างความแตกแยกในสังคม ชาร์ลี เอ็บโด ของฝรั่งเศสสร้างความแตกแยกรุนแรงในสังคมครั้งใหม่ด้วยการเขียนการ์ตูนพร้อมระบุว่าทำขึ้นเพื่อดูหมิ่นศาสนาอิสลาม
สหภาพนักวิขาการมุสลิมนานาชาติ (International Union of Muslim Scholars) ซึ่งมีฐานอยู่ในกาตาร์ โดยมี ยูซุฟ อัล-กอรอฎอวี วัย 88 ปีนักวิชาการผู้ทรงอิทธิพลเป็นผู้นำ ออกมาเรียกร้องให้ชาวมุสลิมดำเนินการประท้วงต่อต้านการดูหมิ่นท่านนบีมูฮัมหมัดศ็อลลั๊ลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัมอย่างสันติต่อไป แต่ “อย่าหันไปใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ”
ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวานนี้ (21) ระบุว่า สมควรที่จะมีการปกป้อง “เหล่าศาสดา” และเรียกร้องให้บรรดาประเทศอิสลามเสนอร่างกฎหมายต่อยูเอ็น เพื่อเรียกร้องให้มีการกำหนดให้การดูหมิ่นศาสนาเป็นสิ่งกฎหมาย
สหภาพกลุ่มนี้ ระบุว่า จากนั้นยูเอ็นควรออกกฎหมายที่กำหนดให้การดูหมิ่นศาสานาและศาสดาตลอดจนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เป็นสิ่งผิดกฎหมาย”
นอกจากนี้ พวกเขายังเรียกร้องให้ตะวันตก “ปกป้องชุมชนมุสลิมจากการโจมตี ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นพลเมืองหรือชาวบ้านหรือผู้มาเยือนก็ตาม”
สหภาพกลุ่มนี้ได้ประณามการตีพิมพ์จำหน่ายภาพการ์ตูนดูหมิ่นท่านนบีมูฮัมหมัดศ็อลลั๊ลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัมที่เป็นภาพชาวอาหรับถือป้ายเขียนว่า “Je suis Charlie” (ฉันคือชาร์ลี) อยู่ข้างใต้พาดหัวว่า “ให้อภัยหมดแล้ว” ในนิตยสารฉบับแรกของชาร์ลี เอ็บโด โดยระบุว่าต้องการดูหมิ่นท่านนบีมูฮัมหมัดศ็อลลั๊ลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม
พวกเขาระบุว่า ภาพวาดล่าสุดนี้จะให้ “เครดิต” กับแนวคิดที่ว่า “ตะวันตกขัดแย้งกับอิสลาม” และเตือนว่า ภาพดังกล่าวจะโหมกระพือความเกลียดชังให้มากยิ่งขึ้น
