เมื่อวันอาทิตย์ (25 กันยายน) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ สน.พระโขนง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เรียกประชุมทีมสืบสวนชุดคลี่คลายคดีคนร้ายชาวต่างชาติยิงตำรวจสืบสวนท่องเที่ยว ได้รับบาดเจ็บ และนำไปสู่การตรวจค้นอาคารพาณิชย์ ย่านสุขุมวิท กระทั่งพบศพชายต่างชาติถูกหั่นเป็นชิ้นส่วนแช่ในตู้แช่ขนาดใหญ่ โดยมี พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. พล.ต.ต.กรไชย เพชรไชยเวส รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.5 พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.ชนิน วชิรปาณีกูล ผกก.สน.พระโขนง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.5 สน.พระโขนง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ เข้าร่วมประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาประชุมเพื่อติดตามสรุปผลในประเด็นต่าง ๆ ที่ได้มอบหมายไปทั้งหมด โดยเริ่มจากการเร่งรัดหาสาเหตุการเสียชีวิต และพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของศพชายต่างชาติที่เสียชีวิต ถูกหั่นศพแช่ในตู้แช่ ว่า สาเหตุนั้นเกิดจากการป่วยตาย หรือถูกทำให้ตาย โดยเน้นไปตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ เมื่อทราบว่า ผู้ตายเป็นใครก็จะสามารถเชื่อมโยงไปยังประเด็นอื่นที่ตั้งไว้ได้ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ประสานทางผู้ที่เกี่ยวข้อง และรอผลการชันสูตรอยู่ สำหรับอาการของ นายวิลเลียม ปีเตอร์ จอห์นสัน ที่วานนี้ (24 ก.ย.) ก่อเหตุทำร้ายตนเอง ขณะนี้อาการปลอดภัย ไม่มีอะไรน่าห่วง ได้ให้เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ในวันที่ 26 ก.ย. นี้ เวลา 14.00 น. ที่ สน.พระโขนง จะมีการประชุมทางนิติวิทยาศาสตร์ของคดีนี้
ด้าน พล.ต.ต.สมประสงค์ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้รับรายงานผลการตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนศพที่พบในตู้แช่ ยังไม่สามารถระบุตัวบุคคลของชิ้นส่วนดังกล่าวได้ว่าชื่ออะไรและเป็นสัญชาติใด รวมถึงประสานกับทาง บช.สตม. ในการตรวจสอบพาสปอร์ตของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน อย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ส่วนกระแสข่าวที่ว่าผู้เสียชีวิตมีสัญชาติฝรั่งเศสนั้น ยังไม่สามารถยืนยัน หรือระบุว่า เป็นสัญชาตินั้นได้ เนื่องจากจะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ที่ชัดเจนเสียก่อน จึงจะสามารถสรุปได้ว่าผู้ตายนั้นเป็นสัญชาติใด
มีรายงานว่าจากการตรวจสอบประวัติของนายปีเตอร์ พบว่าเดินทางเข้ามาในประเทศไทยนานเกิน 5 ปี และน่าจะเป็นตัวการสำคัญในการทำพาสปอร์ตปลอม ส่วนอาคารพานิชย์ในซอยสุขุมวิท 56 นายเจมส์ ดักกลาส อีเกอร์ เป็นผู้ทำสัญญาเช่าไว้ตั้งแต่เดือน ส.ค.2558 โดยแจ้งต่อเจ้าของอาคารว่าจะใช้เป็นสถานที่ทำธุรกิจ ขณะเดียวกันสารเคมีที่พบนั้น มีหลายชนิดนับเป็นร้อยขวด บางรายการเป็นสารต้องห้ามซื้อขายในประเทศไทย แต่เจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่ากลุ่มผู้ต้องหาเป็นผู้สั่งซื้อมาเพื่อใช้ปลอมแปลงเอกสารหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เตรียมขออนุมัติหมายค้นจากศาลเพื่อเข้าตรวจค้นบ้านเช่าในซอยเอกมัย 12 ในเวลา 09.00 น.วันที่ 26 ก.ย.เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง เนื่องจากพยานยืนยันตรงกันว่า ตู้แช่ที่พบศพนั้นถูกเคลื่อนย้ายมาจากบ้านหลังดังกล่าว โดยมีข้อมูลว่าตู้แช่รุ่นดังกล่าวได้เลิกผลิตมานานแล้ว จึงเป็นไปได้ว่ากลุ่มผู้ต้องหาอาจจะซื้อตู้แช่มือ 2 มาใช้ ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมเข้าทำการตรวจสอบภายในบ้านอย่างละเอียดว่าในทุกจุดว่าจะมีการฆ่าและมีการชำแหละศพภายในบ้านหลังนี้หรือไม่