วิกฤตโรงเรียนบางขุนทอง ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส หลังเปิดเทอมมาแล้ว 2 วันแต่เด็กนักเรียนไม่ยอมมาเรียน ขณะที่ครูมาสอนตามปกติ ด้านจังหวัดส่งเจ้าหน้าที่มาดูพบปัญหาโรงเรียนตั้งในพื้นที่มุสลิม แต่ไม่ยอมสอนอิสลามศึกษาตามระเบียบกระทรวงฯ ขณะชาวบ้านต้องการให้นำคนดีมาเป็นผอ.แทน
เมื่อวันพุธ (2 พฤศจิกายน) ที่ห้องประชุมโรงเรียนบางขุนทอง ม.1 ต.บางขุนทอง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ได้มีกลุ่มชาวบ้าน และผู้ปกครองในพื้นที่ ต.บางขุนทอง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทั้งชาย และหญิงกว่า 500 คน ได้มาร่วมประชุมหารือกับผู้แทนการศึกษาจากจังหวัดนาราธิวาส หลังเขตพื้นที่การศึกษา เขต 2 นราธิวาส ไม่ยอมดำเนินการตามข้อเรียกร้องคือ 1.การแต่งตั้ง คนดีที่ผู้ปกครองเสนอมาเป็น ผอ.โรงเรียนบางขุนทอง คนใหม่ และ 2.ต้องการให้โรงเรียนบางขุนทอง เปิดการเรียนการสอนหลักสูตรศาสนาอิสลามในโรงเรียน
ขณะที่ นายอับดุลอาซิ เจ๊ะมามะ คณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส รองประธานคณะกรรมอิสลามจังหวัดนราธิวาส คณะกรรมการ อ.กศจ.รวม 9 คน ได้เดินทางมาพบปะเพื่อรับฟังความเห็น และปัญหาความต้องการของผู้ปกครอง และชาวบ้าน ซึ่งบรรยากาศเริ่มต้นเป็นไปด้วยความตึงเครียด ทั้งนี้ สืบเนื่องจากโรงเรียนทั่วประเทศได้เปิดภาคเรียน หรือเปิดเทอมวันแรกไปตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่จนวันนี้ไม่มีนักเรียนมาเรียนแม้แต่รายเดียวเป็นวันที่ 2 แล้ว ขณะที่ครูมาสอนตามปกติ โดยการประชุมใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จนที่สุดได้มีข้อตกลงรวมกันเพื่อแก้ไขปัญหาให้คลี่คลาย
นายอับดุลอาซิ เจ๊ะมามะ หนึ่งในคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ทางคณะฯ ได้มีข้อสรุปตามคำเรียกร้องชาวบ้าน 2 ข้อ เพื่อเสนอไปยัง นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส คือ กรณีที่ 1.ให้เสนอตามคำเรียกร้องของคนในพื้นที่ โดยให้ นายอรุณ บินยะโกะ มาเป็น ผอ.โรงเรียนบางขุนทอง ไม่ใช่ที่เขตพื้นที่การศึกษาแต่งตั้ง และ 2.ทบทวนเพื่อเป็นการปฏิรูปการศึกษา เรียนสายสามัญ และมีการสอนสายศาสนาอิสลามควบคู่กันไปทั้ง 2 โดยทั้ง 2 ข้อเสนอจะนำมาแก้ปัญหาในระดับจังหวัด เป็นวาระพิเศษ ซึ่งทางคณะฯ ได้ขอเวลาจากผู้ปกครอง และชาวบ้านในพื้นที่ในห้วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้ผู้ปกครอง และชาวบ้านพอใจ โดยยืนยันว่า ในวันพฤหัสบดี (3) จะให้บุตรหลานมาเรียนที่โรงเรียนบางขุนทอง ตามปกติ
ด้าน นายสมาน เซ็งโต๊ะ อบต.บางขุนทอง กล่าวว่า ขณะนี้โรงเรียนบางขุนทอง มี นายสุริยา จินดาเพชร เป็นผู้รักษาการ ผอ.โรงเรียน ทางผู้ปกครอง และชาวบ้านไม่ได้มีปัญหากับคณะครู หรือกับโรงเรียนแต่อย่างใด แต่ที่ชาวบ้านแสดงพลังไม่ส่งบุตรหลานมาเรียน เพราะก่อนหน้านี้ ชาวบ้านเคยเรียกร้องไปยังผู้รับผิดชอบทั้ง 2 ข้อแล้ว แต่ล่าสุด กลับมีคำสั่งแต่งตั้งบุคคลอื่นที่ไม่เหมาะสมมาเป็น ผอ.โรงเรียน ซึ่งผู้ปกครองต้องการ นายอรุณ ยะโก๊ะ มาเป็น ผอ.ที่นี่ เพราะท่านเป็นคนดี เป็นคนในพื้นที่ มีความรู้ความสามารถ และยังเป็นวิทยากรพิเศษในเรื่องการสร้างสันติสุข มีผลงานที่ดี ชาวบ้านจึงต้องการบุคคลนี้มาปฏิรูปการศึกษาในพื้นที่ให้เจริญรุ่งเรือง
ส่วนข้อเรียกร้องเรื่องคุณภาพ “การศึกษา” ผู้ปกครองต้องการให้มี 2 ระบบควบคู่ในโรงเรียนสายสามัญ และสายศาสนาอิสลาม เรียนสามัญต้องเรียนศาสนา เพื่อเยาวชนจะได้รู้จริยธรรม คุณธรรม และการเป็นคนดีด้วย ปัจจุบันมีเด็กในพื้นที่ต้องไปเรียนด้านคุณธรรม จริยธรรมนอกพื้นที่มากกว่า 200 คน กระทบฐานะเศรษฐกิจครัวเรือนชาวบ้าน แต่เมื่อคณะ อ.กศจ.นราธิวาส ได้รับฟังข้อเสนอ และรับที่จะแก้ไข และขอเวลา ชาวบ้านจึงพอใจ และสลายตัว พร้อมยินดีที่จะส่งบุตรหลานมาเรียนตามข้อตกลง ทั้งนี้ ชาวบ้านจะให้เวลาการทำงานของคณะ อ.กศจ.ตามที่ขอ และจะติดตามผลอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่ชาวบ้านรวมตัวกันนั้น พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งมารักษาความปลอดภัยให้แก่ชาวบ้าน โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างสงบ สำหรับโรงเรียนบางขุนทอง ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 บ้านบางขุนทอง ต.บางขุนทอง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ปัจจุบัน สังกัดเขตการศึกษานราธิวาส เขต 2 นราธิวาส เปิดสอนสายสามัญชั้นอนุบาล ถึงชั้นประถมการศึกษาปีที่ 6 โดยมีนักเรียนชาย และหญิงรวม 480 คน มีบุคลากรทางการศึกษารวม 30 คน
ทั้งนี้การสอนอิสลามศึกษาในโรงเรียนรัฐบาลไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)โดย กระทรวงฯ ได้เริ่มสอนรายวิชาอิสลามศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีนักเรียนนับถือศาสนาอิสลามเกินร้อยละ 50 มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2518 โดยจัดให้อิสลามศึกษาอยู่ในกลุ่มสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตและกลุ่มสร้างเสริมลักษณะนิสัยในหลักสูตรประถมศึกษา และจัดเป็นรายวิชาในหมวดสังคมศึกษาในหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย ซึ่งได้พัฒนาหลักสูตรอิสลามศึกษามาเป็นระยะเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสูตรของกระทรวงฯ โดยปัจจุบันการจัดการเรียนการสอนอิสลามศึกษาในโรงเรียนสังกัด สพฐ. มี 2 มิติ ได้แก่
มิติแรก สาระการเรียนรู้อิสลามศึกษา ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551
มิติที่สอง การเรียนการสอนวิชาสามัญควบคู่ศาสนาหรืออิสลามศึกษาแบบเข้ม ตามนโยบายศธ. ปัจจุบันมีโรงเรียนของรัฐที่เปิดสอนวิชาสามัญควบคู่ศาสนา ทั้งสิ้น 350 โรงเรียน
โดยการจัดการเรียนการสอนอิสลามศึกษาทั้ง 2 มิตินั้น มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น ไม่ได้บังคับให้ทุกคนต้องเรียนอิสลามศึกษาแต่อย่างใด
