ตำรวจตุรกีเผยภาพใบหน้าชายต้องสงสัยกราดยิงไนต์คลับในนครอิสตันบูลเมื่อวันขึ้นปีใหม่ พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัยแล้ว 8 ราย แต่ทว่ามือปืนตัวจริงยังคงลอยนวล
เมื่อวันจันทร์ (2 มกราคม) กลุ่มดาอิช ได้ออกมาอ้างว่าเหตุกราดยิงนักเที่ยวตาย 39 ศพที่ไนต์คลับไรนา (Reina) ซึ่งใช้ทั้งระเบิดมือและปืนเข้าไปปลิดชีพนักเที่ยวที่กำลังเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่
แม้ดาอิชจะประกาศชัดเจนว่าทำไปเพื่อแก้แค้นที่ตุรกีส่งทหารเข้าไปในเขตแดนซีเรีย เพื่อขับไล่นักรบดาอิช และกลุ่มติดอาวุธเคิร์ดออกไปจากบริเวณพรมแดน แต่ล่าสุดรัฐบาลตุรกียืนยันว่า ปฏิบัติการทางทหารในซีเรียภายใต้รหัส “ยูเฟรติส ชิลด์” จะต้องดำเนินต่อไป
“เราจะปฏิบัติภารกิจข้ามพรมแดนและยูเฟรติส ชิลด์ ด้วยความมุ่งมั่นต่อไป” นูมาน กูร์ตุลมุส รองนายกรัฐมนตรีตุรกีให้สัมภาษณ์ หลังจากประธานาธิบดีรอยับ ตอยยิบ ออโดกัน ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นการด่วน
ข้อมูลจากทางตำรวจระบุว่า มือปืนได้โดยสารแท็กซี่มายังไนต์คลับไรนาซึ่งตั้งอยู่ริมช่องแคบบอสพอรัสฝั่งยุโรป จากนั้นจึงชักอาวุธปืนคาลาชนิคอฟออกมายิงใส่ตำรวจ และพลเรือนอีก 1 คน ตรงประตูทางเข้า
มือปืนรายนี้ได้สาดกระสุน 4 แมกกาซีน รวม 120 นัด ใส่ผู้คนในคลับที่มีอยู่ประมาณ 700 คน ทำให้นักเที่ยวบางรายต้องกระโดดหนีตายลงไปในน้ำที่เย็นจัดของช่องแคบบอสพอรัส
หลังจากนั้นมือปืนได้เปลี่ยนเสื้อผ้า และอาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ
แม้ตำรวจจะยังไม่สามารถติดตามตัวมือปืนรายนี้ได้ แต่ กูร์ตุลมุส ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับรูปพรรณสัณฐาน และรอยนิ้วมือของคนร้ายมาแล้ว
ตำรวจต่อต้านก่อการร้ายได้จับกุมผู้ต้องสงสัยรวม 8 คน แต่ล่าสุดยังไม่พบความเชื่อมโยงกับมือปืน ขณะที่รองนายกฯ ตุรกีก็ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเรื่องที่ดาอิชออกมาอ้างผลงาน
เจ้าหน้าที่ยังได้เบาะแสมาว่า คนร้ายอาจเดินทางมาจากประเทศแถบเอเชียกลาง เช่น คีร์กีซสถาน หรือไม่ก็อุซเบกิสถาน
ด้านหนังสือพิมพ์ เยนี อากิต ซึ่งเป็นสื่อที่นิยมรัฐบาลตุรกีได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลฯ หลังโพสต์ข้อความพาดหัวว่า สหรัฐฯ คือ “ผู้ต้องสงสัยเบอร์หนึ่ง”
