สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ได้แสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนกองกำลังในภารกิจ “รักษาเสถียรภาพ” ข้ามชาติในฉนวนกาซา ซึ่งถือเป็นประเทศแรกที่ประกาศเจตนารมณ์ดังกล่าว
Lana Nusseibeh ทูตพิเศษของ UAE ประจำกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า UAE สามารถจัดกำลังทหารได้หากสหรัฐฯ เป็นผู้นำในภารกิจและสนับสนุนขั้นตอนต่างๆ สู่การสถาปนารัฐปาเลสไตน์ “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อาจพิจารณาเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังรักษาเสถียรภาพควบคู่ไปกับพันธมิตรอาหรับและพันธมิตรระหว่างประเทศ” Nusseibeh กล่าว
พร้อมเสริมว่าพวกเขาจะทำเช่นนั้น “ตามคำเชิญของ PA ที่ได้รับการปฏิรูป หรือ PA ที่นำโดยนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบอำนาจ” โดยเน้นย้ำว่า “สหรัฐฯ ควรเป็นผู้นำในเรื่องนี้จึงจะประสบความสำเร็จ”
จุดยืนของ UAE เกิดขึ้นเมื่ออิสราเอลพบว่าตนเองอยู่ในทางตันทางยุทธศาสตร์ โดยล้มเหลวในการเอาชนะกลุ่มฮามาสอย่างเด็ดขาด นักวิจารณ์ได้เตือนตั้งแต่เริ่มแรกเกี่ยวกับอันตรายของสงครามที่ขับเคลื่อนด้วยการแก้แค้นซึ่งขาดวัตถุประสงค์ทางการเมืองที่ชัดเจน สถานการณ์ปัจจุบันทำให้อิสราเอลมีทางเลือกที่น่ากลัวในการสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ต่อไป ซึ่งจะทำให้วิกฤตด้านมนุษยธรรมทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก
รายละเอียดเกี่ยวกับภาระกิจของกองกำลังข้ามชาติ ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือตำรวจ ยังอยู่ในระหว่างการหารือ สหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้รัฐอาหรับเข้าร่วมกองกำลังดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนหลังสงคราม แม้ว่าจะไม่ได้มีแผนจะส่งทหารอเมริกันก็ตาม
ก่อนหน้านี้ อียิปต์และโมร็อกโกได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นผู้มีส่วนสนับสนุนกองกำลังรักษาเสถียรภาพ โดยสันนิบาตอาหรับเรียกร้องให้มีภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์จนกว่ารัฐปาเลสไตน์จะมีความสามารถปกป้องตนเองได้ อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ในการส่งกำลังดังกล่าวเต็มไปด้วยความท้าทายและขึ้นอยู่กับการกระทำของอิสราเอล
นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู คัดค้านการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์และบทบาทสำคัญใดๆ ของ PA ในฉนวนกาซามาโดยตลอด โดยยืนกรานว่าอิสราเอลยังคงควบคุมความปลอดภัยโดยรวม จุดยืนนี้ทำให้ความพยายามในการจัดตั้งกองกำลังข้ามชาติมีความซับซ้อนโดยไม่ได้รับความร่วมมือจากอิสราเอล