ชุมชนอิสลามในเมียนมาร์รายงานว่า แผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมียนมาร์เกิดขึ้นในขณะที่ผู้คนจำนวนมากกำลังรวมตัวกันที่มัสยิดเพื่อประกอบพิธีละหมาดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

mizzima.com รายงานว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ซึ่งมีขนาด 7.7 ริกเตอร์ ส่งผลกระทบต่อพื้นที่มัณฑะเลย์เป็นหลัก

ชาวมัณฑะเลย์รายหนึ่งกล่าวว่า “ขณะที่พวกเรากำลังละหมาด แรงสั่นสะเทือนก็เริ่มขึ้น พวกเราบางคนวิ่งหนี ในขณะที่บางคนก็เพียงแค่ดูเฉยๆ หลังคาของมัสยิดถล่มลงมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายต่อหน้าพวกเรา”

วานนี้ซึ่งเป็นวันศุกร์และเป็นวันสุดท้ายของเดือนรอมฎอนด้วย ทำให้มีผู้คนเข้ามาในมัสยิดเพิ่มมากขึ้น

ตามรายงานในท้องถิ่นระบุว่า มัสยิดในสะกายและมัณฑะเลย์ได้รับความเสียหายรุนแรงที่สุด โดยมัณฑะเลย์ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด

หม่องลานา หรือที่รู้จักกันในชื่อโซเนอู จากเครือข่ายสิทธิมนุษยชนพม่ากล่าวว่า “เยาวชนที่ทำงานการกุศลในสะกายเป็นหนึ่งในผู้ที่เสียชีวิต ผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ระหว่างการประเมิน เนื่องจากอาฟเตอร์ช็อกยังคงทำให้ความพยายามในการช่วยเหลือซับซ้อนมากขึ้น”

การสอบสวนเบื้องต้นโดย Mizzima ระบุว่ามัสยิดมากกว่า 50 แห่งได้รับผลกระทบ โดยมีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 ราย แม้ว่าจำนวนดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการก็ตาม

พยานเห็นเหตุการณ์เล่าถึงเหตุการณ์ที่น่าสยดสยองเมื่อมัสยิดถล่มระหว่างการละหมาด ชาวเมืองมัณฑะเลย์คนหนึ่งกล่าวว่า “มีผู้เสียชีวิตประมาณ 10 รายที่มัสยิดแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ระหว่างถนน 75, 34 และ 35 ซึ่งทรุดตัวลงไม่นานหลังจากที่เราขอดุอาอฺ”

ในเมืองสะกาย มัสยิดทั้ง 5 แห่งพังถล่มลงมา โดย 4 แห่งพังยับเยิน เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นโศกนาฏกรรมอย่างยิ่ง เนื่องจากตรงกับช่วงบ่ายของวันศุกร์ในช่วงสุดท้ายของรอมฎอน ซึ่งเป็นเวลาที่ชุมชนต่างๆ จะมารวมตัวกัน รวมทั้งสตรีและเด็กจำนวนมาก

แผ่นดินไหวครั้งนี้ยังทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับสภาพของมัสยิดบางแห่ง ซึ่งบางแห่งมีอายุมากกว่า 150 ปี และยังไม่ได้รับอนุญาตให้ปรับปรุงใหม่ เนื่องจากเป็นไปตามกฎระเบียบของรัฐบาลที่เข้มงวดเกี่ยวกับการดัดแปลง

มีการประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ สะกาย มัณฑะเลย์ มาเกว ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐฉาน เนปิดอว์ และบาโก ขณะที่คณะกรรมการจัดการภัยพิบัติของสภาทหารกำลังระดมกำลังเพื่อบรรเทาทุกข์

สถานีวิทยุกระจายเสียงของรัฐ MRTV รายงานเมื่อวันเสาร์ว่ายอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ริกเตอร์ที่เมียนมาร์เมื่อวันศุกร์เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 1,002 คน บาดเจ็บ 2,376 ราย

ตัวเลขดังกล่าวเป็นของ “พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวทั้งหมดทั่วประเทศ” สถานีโทรทัศน์ดังกล่าวระบุ

ด้านสำนักข่าวไทยรายงานว่า นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติกล่าว​ว่า​ มีจังหวัดรายงานได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวแล้ว จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ชัยนาท ลำพูน เลย กำแพงเพชร รวมถึงกรุงเทพมหานคร ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายและรายงานข้อมูลเพิ่มเติม

สำหรับกรุงเทพมหานครนั้น มีรายงานอาคารร้าวและถนนทรุดตัว และมีอาคารถล่ม 1 จุด โดยเป็นอาคารของ​สำนักงาน​ตรวจ​เงินแผ่นดิน​ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง จากรายงาน ณ เวลา 21.30 น. มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย เสียชีวิต 8 ราย

เนื่องจากสถานการณ์มีผลกระทบและความเสียหายเป็นวงกว้าง​ กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติได้ประกาศยกระดับการจัดการสาธารณภัยกรณีแผ่นดินไหวเป็นสาธารณภัยระดับ 3 (สาธารณภัยขนาดใหญ่) โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์

ความคิดเห็น

comments

By admin