ผู้ประท้วงที่ต่อต้านนโยบายของอิสราเอลรวมตัวกันที่ไทม์สแควร์ในนิวยอร์กซิตี้เมื่อช่วงค่ำของวันเสาร์ เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวมะห์มุด คาลิล นักศึกษาระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ซึ่งถูกควบคุมตัว ตามรายงานของสื่อสหรัฐฯ
ผู้สนับสนุนคาลิลปรากฏตัวท่ามกลางฝนที่ตกหนัก โดยตะโกนคำขวัญและถือป้าย เช่น “ปล่อยมะห์มุด คาลิลเดี๋ยวนี้!” และ “อย่าแตะต้องนักเรียนของเรา” เป็นต้น ตามรายงานของนิวยอร์กโพสต์
ลินดา ซาร์ซูร์ นักเคลื่อนไหวที่โด่งดังจากการวิพากษ์วิจารณ์อิสราเอลอย่างตรงไปตรงมา กล่าวปราศรัยต่อฝูงชนและสนับสนุนให้แสดงความสามัคคีกับคาลิล
ผู้พิพากษาศาลตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ตัดสินเมื่อวันศุกร์ว่านักเคลื่อนไหวที่สนับสนุนปาเลสไตน์ของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียสามารถถูกเนรเทศได้ภายใต้กฎหมายของรัฐบาลกลางที่ไม่ค่อยได้ใช้ โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ ตามรายงานของสื่อสหรัฐฯ
มะห์มุด คาลิล ผู้มีถิ่นพำนักถาวรและผู้ถือกรีนการ์ด ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่หอพักของเขาที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนิวยอร์กซิตี้ หลังจากเข้าร่วมการประท้วงสนับสนุนชาวปาเลสไตน์
ในตอนแรก เขาถูกนำตัวไปที่สถานกักขังแห่งหนึ่งในรัฐนิวเจอร์ซีที่อยู่ใกล้เคียง ก่อนที่จะถูกส่งไปยังศูนย์กักขังในรัฐลุยเซียนา
ผู้พิพากษาจามี โคมานส์ ตัดสินว่าคาลิลอาจถูกขับออกจากประเทศได้ โดยอาศัยคำตัดสินของมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งอ้างว่าการที่คาลิลอยู่ “จะกระทบต่อผลประโยชน์ด้านนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ”
โคมานส์ให้เวลาทีมกฎหมายของคาลิลจนถึงวันที่ 23 เมษายนเพื่อยื่นอุทธรณ์ รายงานระบุว่าหากพวกเขาไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายในกำหนดเวลา ผู้พิพากษาจะออกคำสั่งเนรเทศเขาไปยังซีเรียหรือแอลจีเรีย
มาร์ก ฟาน เดอร์ เฮาต์ ทนายความคนหนึ่งของคาลิล วิพากษ์วิจารณ์คดีของรัฐบาล โดยเน้นย้ำว่าคดีนี้ขาดหลักฐานสนับสนุน และมุ่งเป้าไปที่กิจกรรมที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งที่ 1
ทนายความของคาลิลกล่าวว่ารัฐบาลล้มเหลวในการพิสูจน์ข้อกล่าวหาที่ว่าเขาให้ข้อมูลเท็จในใบสมัครกรีนการ์ด
หลังจากทนายความของคาลิลยื่นคำร้องท้าทายทางกฎหมาย ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางในนิวยอร์กได้ออกคำสั่งชั่วคราวเพื่อระงับการเนรเทศเขา คดีนี้ถูกโอนไปยังนิวเจอร์ซีในเวลาต่อมา หลังจากคาลิลถูกย้ายไปยังสถานกักขังในรัฐนั้น
นักศึกษาทั่วสหรัฐฯ ทั้งที่เป็นพลเมืองและผู้ที่ไม่ใช่พลเมือง ได้ใช้สิทธิในการชุมนุมและพูดออกมาต่อต้านสงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซา ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 50,900 รายตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2023 และทำให้ดินแดนแห่งนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง
