โทมัส บารัค ทูตสหรัฐฯ ประจำซีเรีย เดินทางถึงบ้านพักเอกอัครราชทูตในเมืองหลวงของซีเรียเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่สถานทูตสหรัฐฯ ประจำซีเรียปิดตัวลงในปี 2012 หนึ่งปีหลังจากความขัดแย้งในซีเรียปะทุขึ้น
บารัค ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทูตในซีเรียเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม นอกจากนี้ เขายังดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำตุรกีอีกด้วย
ธงชาติสหรัฐฯ ได้ถูกชักขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีบริเวณนอกบ้านพักของเอกอัครราชทูตซึ่งปิดตัวไปนานแล้วในกรุงดามัสกัส ซึ่งถือเป็นสัญญาณของความสัมพันธ์ที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างวอชิงตันและรัฐบาลซีเรียชุดใหม่ซีเรีย
บารัค ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตพิเศษประจำซีเรีย ได้เดินทางมาเพื่อทำพิธีเปิดบ้านพักดังกล่าว สำนักข่าว SANA ของรัฐบาลซีเรียรายงาน
วอชิงตันยังไม่เปิดสถานทูตในกรุงดามัสกัสอย่างเป็นทางการ ซึ่งปิดทำการไปเมื่อปี 2012 หลังจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลของบาชาร์ อัล อัสซาด ซึ่งนำไปสู่การปราบปรามอย่างรุนแรง และกลายเป็นสงครามกลางเมือง เมื่อเดือนธันวาคม อัสซาดถูกปลดออกจากตำแหน่งในปฏิบัติการบุกโจมตีของกลุ่มนักรบฝ่ายต่อต้าน
แต่การเยือนของบารัคและการชักธงถือเป็นสัญญาณสำคัญของความสัมพันธ์ที่อบอุ่นขึ้น
ในตอนแรก วอชิงตันระมัดระวังผู้นำคนใหม่ของซีเรีย ซึ่งนำโดยอาหมัด อัลชารา อดีตผู้นำกลุ่มนักรบที่สหรัฐฯ ยังคงจัดให้เป็นองค์กรก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลทรัมป์ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากซาอุดีอาระเบียและตุรกี ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ ในภูมิภาค ได้แสดงให้เห็นถึงความเปิดกว้างมากขึ้นต่อดามัสกัส
ทรัมป์จัดการประชุมแบบเซอร์ไพรส์กับอัลชาราในริยาดเมื่อต้นเดือนนี้ และสหรัฐฯ ก็เริ่มที่จะยกเลิกการคว่ำบาตรซีเรียหลายสิบปีภายใต้การปกครองของตระกูลอัสซาด
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ โพสต์แถลงการณ์บน X เมื่อวันพฤหัสบดี โดยระบุว่าทรัมป์ประกาศแต่งตั้งบารัคเป็นทูตประจำซีเรีย
“เขาเข้าใจว่าการทำงานร่วมกับซีเรียมีศักยภาพอย่างมากในการหยุดยั้งลัทธิหัวรุนแรง ปรับปรุงความสัมพันธ์ และรักษาสันติภาพในตะวันออกกลาง ร่วมกันเราจะทำให้สหรัฐอเมริกาและโลกปลอดภัยอีกครั้ง!” แถลงการณ์ระบุ
บารัคได้กล่าวขอบคุณทรัมป์ในโพสต์ X สำหรับ “วิสัยทัศน์อันกล้าหาญของคุณในการเสริมพลังให้กับภูมิภาคที่ร่ำรวยทางประวัติศาสตร์ซึ่งถูกกดขี่มานาน เพื่อกลับคืนการกำหนดแนวทางของตัวเอง”