ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ เสนอให้ขยายพื้นที่ “ป่าชัฏ” (wilderness) ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่กินอาณาบริเวณกว้างขวางในรัฐอะแลสกา เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองขั้นสูงสุดจากการบุกรุก และการสำรวจทรัพยากรน้ำมัน
การยกสถานะของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งชาติอาร์กติก (Arctic National Wildlife Refuge) ซึ่งกินพื้นที่ราว 12.28 ล้านเอเคอร์ และเต็มไปด้วยทรัพยากรน้ำมันจะทำให้ไม่สามารถตัดถนนหรือพัฒนาพื้นที่ในทุกๆ รูปแบบ
“ผมจะเสนอให้สภาคองเกรสออกมาตรการปกป้องอีกระดับ โดยให้ขยายเขตป่าชัฏ เพื่อรักษาความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติไว้ให้ลูกหลานของเราอีกหลายชั่วคน” โอบามา กล่าวในคลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ออนไลน์เมื่อวานนี้ (25)
หากคองเกรสอนุมัติตามที่โอบามาเสนอ พื้นที่นี้จะกลายเป็นเขตป่าชัฏที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ นับตั้งแต่มีการกำหนดเขตป่าคุ้มครองประเภทนี้ขึ้นเมื่อ 50 ปีที่แล้ว
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งชาติอาร์กติกเป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์นานาชนิด ตั้งแต่หมีขั้วโลก, หมาป่าสีเทา, กวางคาริบู, วัวมัสก์ออกซ์ รวมไปถึงนกกว่า 200 สายพันธุ์ และปลาอีก 42 สายพันธุ์
“พื้นที่แห่งนี้มีความเปราะบาง ด้วยเหตุนี้ผมจึงรู้สึกภูมิใจที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแผนที่ครอบคลุมเพื่อปกป้องเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอาร์กติก และขยายเขตป่าชัฏให้ครอบคลุมไปถึงที่ราบชายฝั่งด้วย”
ปัจจุบันพื้นที่กว่า 7 ล้านเอเคอร์ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอาร์กติกถูกประกาศเป็นเขตป่าชัฏแล้ว แต่ยังไม่รวมที่ราบชายฝั่งซึ่งมีสัตว์อาศัยอยู่หลากหลายชนิด และเป็นแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่
ลิซา เมอร์โควสกี ส.ว.รีพับลิกัน ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติแห่งวุฒิสภาสหรัฐฯ ติเตียนความคิดของ โอบามา ว่าเป็นการปิดกั้นหนทางพัฒนา
“ช่างเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับชาวอะแลสกาที่ต้องตื่นขึ้นมาในวันอาทิตย์ และได้ทราบว่าทำเนียบขาวกำลังจะโจมตีเศรษฐกิจและอนาคตของเรา” เมอร์โควสกี โพสต์ทวิตเตอร์ ขณะที่ ส.ว.รีพับลิกันในคณะกรรมการพลังงานฯ ก็ได้อ้างถึงบทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง เมอร์โควสกี กับรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย แซลลี จิวเวลล์ เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (23)
“สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นถือเป็นการโจมตีอำนาจอธิปไตย และศักยภาพของเราในการที่จะพัฒนาเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง เพื่อคนรุ่นเราเองและรุ่นลูกรุ่นหลาน” เมอร์โควสกี ระบุ
ด้าน บิล วอร์เกอร์ ผู้ว่าการรัฐอะแลสกา ก็ได้ทวีตข้อความ “ตำหนิความพยายามของประธานาธิบดี โอบามา จะที่ขัดขวางการพัฒนาเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าอาร์กติกในอนาคต”
จอห์น โพเดสตา ที่ปรึกษาของประธานาธิบดี และ ไมค์ บูทส์ หัวหน้าสภาคุณภาพสิ่งแวดล้อมประจำทำเนียบขาว ได้โพสต์ข้อความตอบโต้ในบล็อกว่า “รัฐบาลโอบามาเชื่อว่า การสำรวจก๊าซธรรมชาติและน้ำมันสามารถกระทำอย่างปลอดภัยได้ แต่น่าเสียดายที่อุบัติเหตุและการรั่วไหลยังคงเกิดขึ้นเสมอ”
ด้านกลุ่มนักอนุรักษ์ต่างออกมายกย่องแนวคิดริเริ่มของวอชิงตัน
“การประกาศเขตป่าชัฏควรจะมีขึ้นนานแล้ว สำหรับพื้นที่ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของฝูงกวางคาริบูและหมีขั้วโลกจำนวนมากมายของอเมริกา” รีเบคกา น็อบลิน ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อความหลากหลายทางชีวภาพแห่งอะแลสกา กล่าว
ทั้งนี้ คำแถลงของกระทรวงมหาดไทยสหรัฐฯ และ โอบามา ต่างไม่เคยอ้างถึงแหล่งน้ำมันในพื้นที่นี้มาก่อน