ประธานาธิบดีเต็งเส่ง ของพม่า ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตโกกัง ทางตะวันออกของประเทศ และประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นเวลา 3 เดือน ผ่านทางโทรทัศน์คืนวานนี้ (17)
การสู้รบที่ปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. ระหว่างกองทัพพม่า และกองกำลังชาติพันธุ์โกกัง ที่เรียกตัวเองว่า กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติพม่า (MNDAA) จนถึงตอนนี้ มีทหารเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 47 นาย และฝ่าย MNDAA เสียชีวิต 26 คน ตามการรายงานของหนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์ ขณะที่พลเรือนหลายพันคนอพยพออกจากพื้นที่ไปยังส่วนอื่นของประเทศ และข้ามพรมแดนไปฝั่งจีน
และในวันเดียวกัน (17) ยังเกิดการโจมตีขบวนรถที่ติดสัญลักษณ์สภากาชาดพม่า โดยกลุ่มคนร้ายไม่ทราบฝ่าย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ซึ่งทหารฝ่ายรัฐบาลกล่าวโทษว่าการโจมตีเป็นฝีมือของฝ่าย MNDAA
สหรัฐฯ ที่สนับสนุนการปฏิรูปในพม่า และความพยายามที่จะสร้างสันติภาพระหว่างรัฐบาลและกองกำลังชาติพันธุ์ ระบุว่า มีความกังวลอย่างมากต่อเหตุการณ์การสู้รบที่ยังดำเนินอยู่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งรายงานเจ้าหน้าที่กาชาดถูกยิง 2 คน
“เราเรียกร้องขอให้ทุกฝ่ายอดกลั้น และกลับสู่การเจรจา การต่อสู้จะบ่อนทำลายกระบวนการปรองดองแห่งชาติที่กำลังดำเนินอยู่” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในอีเมล พร้อมทั้งเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ระดับรัฐ และท้องถิ่นอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสามารถเข้าถึงเพื่อมอบความช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่ขัดสนได้โดยทันที