องค์กรการไฟฟ้าปาเลสไตน์ (PEA) ลงนามบันทึกความร่วมมือกับบริษัทพลังงานทดแทนของชาวอเมริกันเชื้อสายปาเลสไตน์ ในการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์
Ahmed Abul-Omrein โฆษกของ PEA กล่าวในแถลงการณ์ระบุว่า “เราลงนามข้อตกลงเมื่อวันพฤหัสบดีกับบริษัท Samaha ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านพลังงานทดแทนของสหรัฐ โดยมีเจ้าของเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายปาเลสไตน์ ในการสร้างโรงผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังผลิต 30 “
โครงการดังกล่าวจะดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 9 เดือน Abul-Omrein กล่าว
โดยในช่วงสามเดือนแรกจะดำเนินการในการขออนุญาตนำอุปกรณ์สำคัญๆในโครงการดังกล่าวผ่านด่านพรมแดนนำเข้าทางอิสราเอล
“โครงการนี้จะดำเนินการในที่ดินที่เคยถูกใช้เป็นที่ตั้งถินฐานชาวยิวในดินแดนฉนวนกาซา ก่อนที่ถอนกำลังออกไปในปี 2005” เขากล่าวเสริม
ฉนวนกาซาได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนไฟฟ้าเฉียบพลันเป็นเวลาเกือบทศวรรษที่ผ่านมานับตั้งแต่เครื่องบินรบอิสราเอลทิ้งระเบิดสถานีผลิตไฟฟ้าในฉนวนกาซาในปี 2006
ไฟฟ้าในปาเลสไตน์ไม่เพียงพอต่อความต้องการการใช้ไฟฟ้าของประชาชน จนทำให้ต้องเปิดใช้งานได้เพียงวันละ 8 ชั่วโมงเท่านั้น
การขัดขวางการขนส่งสิ่งของจำเป็นผ่านทางอุโมงค์เชื่อมระหว่างอิยิปต์ และฉนวนกาซา ได้ส่งผลอย่างรุนแรงต่อการใช้ชีวิตของชาวปาเลสไตน์อย่างมาก
ชาวปาเลสไตน์กว่า 1.9 ล้านคนในฉนวนกาซามีความต้องใช้ไฟฟ้าต่อวัน 400 เมกะวัตต์ แต่ปัจจุบันมีไฟฟ้าใช้อยู่เพียง 212 เมกะวัตต์เท่านั้น
โดยปัจจุบันไฟฟ้าที่ใช้ในฉนวนกาซาถูกส่งมาจาก 3 แหล่ง คือช่องทางแรกถูกบังคับในภาวะจำยอมต้องซื้อไฟฟ้าจากอิสราเอล 120 เมกะวัตต์ ช่องทางที่ 2 คือการซื้อไฟ้าจากอียิปต์ 32 เมกะวัตต์ ขณะที่ช่องทางที่ 3 คือโรงผลิตไฟฟ้าภายใจฉนวนกาซาที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียง 40-60 เมกะวัตต์เท่านั้น
