350 โรฮิงญาถูกไต่ก๋งไทยทิ้งลอยทะเล ออกหมายจับค้ามนุษย์เพิ่มอีก 10 ราย

BBC รายงานว่ากลุ่มผู้อพยพชาวโรฮิงญาจำนวน 350 คน โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากนักเคลื่อนไหวคนหนึ่งว่า ถูกไต้ก๋งเรือคนไทยปล่อยทิ้งไว้กลางทะเล โดยที่ไม่มีอาหารและน้ำดื่มประทังชีวิตมา 3 วันแล้ว

คริส เลวา แห่งโครงการอาระกัน องค์กรที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮิงญา เปิดเผยกับบีบีซีวันอังคาร (12 พ.ค.) ว่า กลุ่มผู้อพยพซึ่งรวมถึงผู้หญิง 50 คน และเด็ก 84 คน โทรขอความช่วยเหลือ และไม่ทราบว่าขณะนี้เรือของพวกเขากำลังลอยลำอยู่ที่ไหน และจะมุ่งหน้าไปทางใด ทราบเพียงว่า เรือที่พวกเขาโดยสารไปนั้น เป็นเรือไทยซึ่งทั้งไต้ก๋ง และลูกเรือต่างเป็นชาวไทย พวกเขาใช้ชีวิตอยู่กลางทะเลมาร่วม 2 เดือนแล้ว แต่เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมไต้ก๋งกับพวกกลับหนีลงเรืออีกลำพร้อมกับนำชิ้นส่วนเครื่องยนต์เรือไปด้วย ทำให้เรือของพวกเขาแล่นไปไหนไม่ได้

บีบีซีรายงานด้วยว่า โจ โลวรี โฆษกองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน กล่าวว่า ผู้อพยพเหล่านั้นเดินทางจากบังกลาเทศหรือเมียนมาร์ ผ่านอ่าวเบงกอลมายังไทย หรือเดินทางไปไกลกว่านั้น ซึ่งต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์

อย่างไรก็ตาม ผู้อพยพจำนวนมากไม่สามารถเดินทางไปถึงจุดหมายได้ เพราะกลุ่มผู้ลักลอบถ่วงเวลาให้ล่าช้าลงด้วยการจับตัวผู้อพยพไว้ เพื่อเรียกค่าไถ่จากครอบครัว แทนที่หลังจากค่ายพักในป่าประเทศไทยถูกทางการไทยบุกทลาย

ด้านความคืบหน้าการสืบสวนคลี่คลายคดีเครือข่ายค้ามนุษย์ ล่าสุด วันอังคาร (12 พ.ค.) ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดนาทวี ออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องต่อการค้ามนุษย์ทั้งใน จ.สงขลา และ จ.สตูล เพิ่มอีก 10 คน จากเดิมที่ได้ออกหมายจับไปแล้ว 51 คน

รวมผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับแล้วทั้งสิ้น 61 คน ควบคุมตัวได้แล้ว 19 คน เหลือที่ยังหลบหนี และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุมอีก 42 คน โดยหนึ่งในนั้นคือ นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ อดีตนายก อบจ.สตูล ที่ยังคงหลบหนี และมีรายงานว่าได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว

i-News Daily 58-05-13-300m

ความคิดเห็น

comments

One thought on “350 โรฮิงญาถูกไต่ก๋งไทยทิ้งลอยทะเล ออกหมายจับค้ามนุษย์เพิ่มอีก 10 ราย

  1. เรียน นายกรัฐมนตรี ( พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
    @ @วิลายะตุลฟะกีฮ์ @@ อำนาจการปกครองของผู้ที่รู้จริงจาก อัลเลาะห์ ซ.บ.
    กฎชารีอะห์ต่าง ๆ เป็นเรื่องของ ฟะกีฮ์ ฟูกอฮะฮ์ เท่านั้น
    @ เรื่องนี้เป็นความดีหนึ่ง ที่ผมกระทำเพื่อ ” ล้นเกล้า ล้นกระหม่อม ทั้ง 2 พระองค์ และเน้นไปยัง
    มุสลิมทุก ๆท่าน เพื่อทราบและโปรดพิจารณา มิขอขัดแย้งกับผู้ใด ทั้งสิ้น (ส่วนกลุ่มอื่น ๆเพียงเพื่อทราบ เท่านั้น)
    @ การทำให้มุสลิมนิกายซุนหนี่และนิกายชีอะห์ มีเอกภาพได้ อาจจะ สามารถทำให้เกิด เหตุการณ์ดัง
    ต่อไปนี้…
    1. หยุดเหตุการณ์ร้ายต่างๆ ใน 3 จังหวัดภาคใต้ได้
    2. หยุดความขัดแย้งในประเทศไทยได้
    3. ฯลฯ
    @ ความรู้ในเรื่อง ” ศาสนา ” อิสลาม มีดังนี้ (ในทัศนะของผู้เขียน)
    1. ระดับต้น
    2. ระดับกลาง
    3. ระดับสูง ซึ่งความขัดแย้งต่าง ๆ หรือหลักความเชื่อ (อากีดะห์) และกฎชารีอะห์ต่าง ๆอยู่ในระดับนี้
    4. ระดับสูงที่สุด คือได้รับสัญญาณต่าง ๆ จากอัลเลาะห์ ซ.บ. (สัญญาณใดสัญญาณหนึ่ง ตามอัลกุรอาน 42/51)
    ที่ไม่ขัดกับหลักความเชื่อเดิม ของมวลมุสลิม
    @ ผมได้รับสัญญาณ จากอัลเลาะห์ ซ.บ. ตามข้อที่ 4 ที่สำคัญที่สุดคือสัญญาณ ที่ให้เรื่องราวของผมไป
    เกี่ยวข้องกับคำว่า ” วริษ ” ซึ่งเป็นศัพท์ คำเดียวกับคำว่า ” วาริษีน ” ซึ่งอยู่ในอัล-กุรอาน 28/5 ซึ่งหมายถึง
    ให้เป็นผู้รับมรดก สืบทอดอำนาจในแผ่นดิน (ผู้สืบทอดคัมภีร์ ท่านที่ 48 ) หรือ อูลิลอำรี (ผู้มีอำนาจปกครอง) อัล-กุรอาน 4/59
    @ ภาระอันยิ่งใหญ่อีกอย่างหนึ่งคือการ พิสูจน์การมีอยู่จริง ของอัลเลาะห์ ซ.บ. ต่อผู้……………ผมเคยเสนอตัวว่าเป็น
    อิมามมะฮ์ดี อ. มาเป็นระยะเวลานานพอสมควร ทั้ง ๆที่จิตใจส่วนลึก ผมไม่อยากเป็นเลย (เพราะยุ่งตายห่า….)
    และมีข้อจำกัดมากมาย แต่ละสายรายงานไม่เหมือนกัน แต่ อัล-กุรอาน 28/5 คือ อัล มะฮ์ดี อ. หรือ วะซี อ.หรือบรรดา “อาอิมมะฮ์” อ.
    (ผู้ที่นบีมูฮำหมัด ซ.ล.สั่งเสียว่า ให้เป็นผู้มีอำนาจ่ปกครองแน่นอน และสัญญาณจาก ซุ.บุ.ในยุคปัจจุบัน และเป็นวิทยาศาสตร์นั้นมีค่ามากมาย และไม่เกี่ยวกับผู้ใดทั้งสิ้น) และที่เป็นอัล-กุรอาน แน่นอนว่าต้องเป็นพระดำรัสของ ซ.บ.
    @ จากคำว่า ” วริษ ” และ ” วาริษีน ” ที่ประดังมายังเรื่องราวของผมนั้น มันเป็นพระประสงค์ ของอัลเลาะห์ ซ.บ. แน่นอน ตามข้อที่ 4 และสามารถ แก้ปัญหาในข้อที่ผ่านๆ มาได้ (ข้อ 1 ข้อ 2 และข้อ 3)
    แต่ต้องเป็นไปในลักษณะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ในการควบคุมของ ฟะกีฮ์ ฟูกอฮะฮ์
    เท่านั้น
    @ ทุก ๆ ความคิดเห็นจากท่าน ๆ หากเป็นไปในทางบวกก็ขอขอบพระคุณมาก ๆ แต่ถ้าหากเป็นไปในทางลบ ก็ไม่เป็นไร เพราะผมได้รับกำลังใจจาก อัลเลาะห์ ซ.บ. เรื่อย ๆ เป็นการปลอบใจ ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งทางบวกและทางลบ ก็ขอให้ อัลเลาะห์ ซ.บ. ทรงตอบแทนท่านด้วย เพราะผู้ทรงสิทธิในวันแห่งการตัดสิน คือ อัลเลาะห์ ซ.บ. เท่านั้น ผู้อื่นไม่เกี่ยวแม้แต่นิดเดียว อัล-กุรอาน 1/4
    @ ทางราชการน่าจะส่ง ผู้รู้ของมุสลิม ทั้ง 2 นิกาย มาหารายละเอียดด้วย เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทย และเสนอต่อสื่อมวลชนกระแสหลักต่อไป
    ” และเรา ซ.บ. ประสงค์ที่จะประทานความโปรดปรานของเรา ให้แก่ผู้ที่ถูกกดขี่ให้อ่อนแอในโลกนี้ และทำให้พวกเขาเป็น “ผู้นำ” ทั้งหลายและทำให้พวกเขาเป็นผู้สืบทอดอำนาจทั้งหลาย ” อัล-กุรอาน 28/5
    ” And it was Our will to favour those who were OPPRESSED and to make them leaders of mankind to bestow on them a noble heritage and to give them
    power in the LAND ” และที่สำคัญที่สุดคือ มุสลิมทุก ๆท่าน ต้องศรัทธาต่อ อัล-กุรอาน ทุกๆ โองการ รวมทั้งท่านด้วย
    @ เชิญหารายละเอียดได้ที่บ้านของ ผม 48 ม. 6 ต. ย่านซื่อ อ. ควนโดน จ. สตูล 91160 บันทึกไว้มากมาย จาก ตัวแทนของผู้ถูกกดขี่ในปัจจุบัน (มุสตัดอาฟีน) / วัสลาม 13 พฤษภาคม 2558 จาก
    สันติ มาราสา (ฮัซซัน บิน กาเส็ม)
    โทร. 074 – 735128

ใส่ความเห็น