ชาวพุทธชาตินิยมหลายร้อยคนที่มีพระสงฆ์ร่วมด้วย ได้เดินขบวนประท้วงในนครย่างกุ้งเมื่อวันพุธ (27) ต่อต้านแรงกดดันจากนานาชาติที่ต้องการให้พม่าจัดการกับปัญหาการอพยพย้ายถิ่นของชาวมุสลิมโรฮิงญา และให้ความช่วยเหลือบรรดาผู้ที่ยังติดค้างอยู่กลางทะเล
ผู้ชุมนุมประท้วง ที่รวมทั้งพระสงฆ์ ร้องตะโกนว่า “อย่าดูถูกประเทศของเรา” และ “ไม่มีโรฮิงญาในพม่า” ด้วยความโกรธแค้นของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปยังสหประชาชาติ
วิกฤตผู้อพยพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกจับตามองจากสภาพที่เลวร้าย การคุกคาม การใช้ความรุนแรง และการเลือกปฏิบัติที่ชาวโรฮิงญานับล้านต้องเผชิญในพื้นที่ทางภาคตะวันตกของพม่า กลุ่มคนที่ถูกทำให้เชื่อว่าเป็นผู้อพยพผิดกฎหมายจากบังกลาเทศ
“1.3 ล้านคนนี้ไม่ได้มาจากประเทศของเรา เราไม่ยอมรับว่ามีเชื้อชาติโรฮิงญาที่นี่” กอ เต๊ต ผู้ประท้วงอายุ 31 ปี กล่าว
ผู้ชุมนุมประท้วงที่หลายคนสวมเสื้อยืดที่มีข้อความเขียนว่า “มนุษย์เรือไม่ใช่พม่า หยุดโทษพม่า” ได้รวมตัวกันที่ทางแยกจอแจจุดหนึ่งในนครย่างกุ้งก่อนจะเดินขบวนผ่านถนนสายต่างๆ ในเมือง
เมื่อสัปดาห์ก่อน กองทัพเรือพม่าได้พบกลุ่มผู้ชายและเด็กที่อยู่ในสภาพหิวโหยและอ่อนแรง ที่ส่วนใหญ่น่าจะมาจากบังกลาเทศ เบียดเสียดกันอยู่ในเรือของนักค้ามนุษย์ชาวไทยที่บริเวณนอกชายฝั่งพม่า ทั้งหมดถูกควบคุมตัวในพื้นที่ชายแดนของรัฐยะไข่ ที่ชาวโรฮิงญาอาศัยอยู่ในสภาพน่าสังเวชหลังเกิดเหตุความรุนแรงระหว่างชุมชนในปี 2555 ที่ทำให้พื้นที่เกิดการแบ่งแยกเชื้อชาติและจุดชนวนคลื่นความรุนแรงโจมตีต่อต้านชาวมุสลิมอย่าวต่อเนื่อง
ขณะที่ทางการพม่าได้ส่งตัวผู้อพยพเหล่านั้นจำนวน 200 คนคืนให้บังกลาเทศแล้ว ขณะที่อีก 8 คนพม่ายอมรับว่าเป็นชาวบังกาลี(โรฮิงญา) จากพม่าจริง
แม้ทั่วโลกจะเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเร่งช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับผู้อพยพเหล่านั้น แต่กลับก่อให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ชาวพุทธชาตินิยมของพม่า
“ใครที่ช่วยชาวเบงกาลีอพยพผิดกฎหมายคือศัตรูของเรา” ผู้ประท้วงร้องตะโกน
ในการแถลงข่าวเกี่ยวกับแผนการเลือกตั้ง พรรคฝ่ายค้านของนางอองซานซูจีพยายามที่จะลดความสำคัญของปัญหาในรัฐยะไข่ โดยกล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นหนึ่งในหลายประเด็นที่ประเทศต้องแก้ไขหลังพม่าหลุดพ้นจากการปกครองของทหาร
“เราเข้าใจว่านี่เป็นปัญหาระดับนานาชาติ เรารู้ว่าเราต้องจัดการปัญหานี้สักวันหนึ่ง” วิน เต็ง สมาชิกรัฐสภาจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย กล่าว และเสริมว่านี่เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลพม่า
ด้านอองซานซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพลังเลที่จะพูดถึงวิกฤตผู้อพยพนี้ โดยผู้สังเกตการณ์ระบุว่าซูจีกลัวว่าจะสร้างความแตกแยกในกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งก่อนการเลือกตั้งจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งอาจกระทบต่อคะแนนเสียง