ไฟป่าลามหนักในสเปน ประชาชนนับพันอพยพหนีตาย

ประชาชนจำนวนมากกว่า 1,350 รายต้องอพยพออกจากแคว้น “อรากอน” ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสเปน หลังเกิดไฟป่าลุกลามอย่างหนักในพื้นที่นี้ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบจากการโจมตีของ “คลื่นความร้อน” ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเมื่อวันจันทร์ (6)

รายงานข่าวระบุว่า จนถึงขณะนี้มีชาวบ้านจากอย่างน้อย 5 หมู่บ้านต้องอพยพหนีเอาชีวิตรอดจากไฟป่าที่ลุกลามอย่างหนักในแคว้นอรากอนของสเปน โดยศูนย์กลางของไฟป่าซึ่งปะทุขึ้นตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ถูกระบุว่าอยู่ห่างจากกรุงมาดริด เมืองหลวงของประเทศไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 375 กิโลเมตร

ฆาเบียร์ ลัมบัน ประธานาธิบดีของแคว้นอรากอน ออกมาแถลงว่า จนถึงขณะนี้มีประชาชนจำนวนมากกว่า 1,350 รายแล้วที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตน และเข้ามาพักพิงในศูนย์รองรับผู้อพยพชั่วคราวที่ทางการท้องถิ่นจัดตั้งขึ้น โดยในจำนวนผู้ที่ต้องอพยพหนีการลุกลามของไฟป่าในคราวนี้มีบรรดาผู้สูงอายุจากบ้านพักคนชราแห่งหนึ่งรวมอยู่ด้วย

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 500 ชีวิตกำลังเร่งทำงานแข่งกับเวลาเพื่อหาทางควบคุมการลุกลามของไฟป่าครั้งนี้ในแคว้นอรากอน แต่ความพยายามของพวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคสำคัญจากกระแสลมที่พัดแรง และการโจมตีของคลื่นความร้อนที่ทำให้เกิดการปะทุของไฟป่าจุดใหม่ๆ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้าน โมเดสโต โลบอน โฆษกกระทรวงเกษตรและสิ่งแวดล้อมของสเปน ออกมาแถลงว่า เหตุไฟป่าในแคว้นอรากอนได้เผาผลาญสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ป่าในแคว้นแห่งนี้ไปแล้วเกือบ 19,770 เอเคอร์

ล่าสุด ทางสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสเปน รายงานว่า หลายพื้นทีทั่วทั้งคาบสมุทรไอบีเรีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของสเปนและโปรตุเกสจะต้องเผชิญกับการโจมตีของคลื่นความร้อนที่ทำให้อุณหภูมิของหลายเมืองพุ่งสูงจนแตะระดับ “40 องศาเซลเซียส” ต่อไปอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์

นอกเหนือจากเหตุไฟป่าที่กำลังลุกลามอย่างหนักอยู่ในแคว้นอรากอนของสเปนแล้ว ทางการโปรตุเกสได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 100 นายเข้าไปยังพื้นที่ป่าใกล้เมืองอัลโกเบร์ตาส ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงลิสบอน เมืองหลวงของประเทศไปไม่ไกล หลังจากพบการปะทุของไฟป่า ตั้งแต่เมื่อคืนวันเสาร์ (4 ก.ค.) ที่ผ่านมา

ความคิดเห็น

comments

ใส่ความเห็น