เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านสาธารณสุขของรัฐบาลเบนินออกมายอมรับในวันอังคาร (2 กุมภาพันธ์) โดยระบุขณะนี้พบผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสไข้เลือดออกลาสซา (Lassa fever) ซึ่งมีหนู เป็นพาหะแล้วอย่างน้อย 20 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เสียชีวิตไปแล้ว 9 ราย ท่ามกลางความกังวลว่าไวรัสชนิดนี้อาจก่อให้เกิดวิกฤตด้านสุขภาพครั้งใหม่ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกที่เพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นานจากวิกฤตการแพร่ระบาดของอีโบลา
ด้านกองทุนเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือองค์การ “ยูนิเซฟ” ออกคำแถลงยืนยันว่า ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้เลือดออกลาสซา (Lassa fever) รายแรกในเบนินถูกนำตัวเข้ารับการดูแลจากแพทย์ที่โรงพยาบาลแซงต์ มาร์แต็ง เด ปาปาเน ในเมืองชาอูรู
ขณะที่โอรู บากู โยรู ชาบี เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านสาธารณสุขของรัฐบาลเบนิน ออกมายอมรับเป็นครั้งแรกว่าพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 ราย จากจำนวนผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสไข้เลือดออกลาสซาที่มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 20 ราย
ก่อนหน้านี้เบนินซึ่งมีประชากร 10 ล้านคนเคยเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสไข้เลือดออกลาสซาซึ่งมีสัตว์จำพวกฟันแทะ เช่น หนู เป็นพาหะมาแล้วเมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2014 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในเวลานั้นไปอย่างน้อย 9 รายเช่นกัน
ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานที่ระบุว่า ประเทศเพื่อนบ้านของเบนินอย่างไนจีเรียก็พบผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้แล้ว 168 ราย ซึ่งอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตที่ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างน้อย 84 ราย
ทั้งนี้ ไวรัสไข้เลือดออกลาสซาถูกจัดให้อยู่ในตระกูลเดียวกับเชื้อไวรัสมาร์เบิร์ก และอีโบลา โดยชื่อของไวรัสชนิดนี้ถูกตั้งชื่อตามเมืองทางภาคเหนือของไนจีเรียซึ่งเป็นสถานที่ที่พบการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดนี้เป็นครั้งแรกในโลกเมื่อปี ค.ศ. 1969