รัฐมนตรีกระทรวงศาสนาของพม่ากล่าวเตือนพระสงฆ์ชาตินิยมสุดโต่งให้หลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำสร้างความเกลียดชัง นับเป็นการกล่าวตำหนิที่เกิดขึ้นมาก่อนของรัฐบาลต่อกลุ่มชาวพุทธหัวรุนแรงที่อยู่เบื้องหลังการใช้ถ้อยคำต่อต้านชาวมุสลิมในประเทศมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา หลังวิระธูประกาศงดชุมนุมต่อต้านรัฐบาลพร้อมกล่าวหา “ซูจี” เป็นผู้นำ “เผด็จการ”
คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นหลังพระวิระธู แกนนำพระสงฆ์จากกลุ่มมะบะธากล่าววิจารณ์อย่างรุนแรงต่ออองซานซูจีว่าเป็น “เผด็จการ” ที่ตั้งใจจะล้มกลุ่มชาวพุทธกลุ่มนี้
คำพูดต่อต้านชาวมุสลิมที่เต็มไปด้วยความเท็จเพื่อยุยงปลุกปลั่นของกลุ่มที่นำโดยพระสงฆ์ ถูกชี้ว่าก่อให้เกิดความเกลียดชังทางศาสนาทั่วประเทศ ที่ทำให้ได้เห็นความรุนแรงทางศาสนาเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
อำนาจของกลุ่มขยายตัวขึ้นในช่วงการปกครองของอดีตรัฐบาลทหารที่นำโดยนายพลเต็ง เส่ง มีการจัดชุมนุมใหญ่และกล่าวให้ร้ายชาวมุสลิมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หลังรัฐบาลพม่าในยุคนั้นปล่อยตัวพระวิระธูแกนนำพระสงฆ์ที่ถูกจำคุกหลังเคลื่อนไหวทางการเมืองมาเป็นแกนนำกลุ่มต่อต้านอิสลาม แต่ความโดดเด่นของกลุ่มได้จางหายไปในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
และจากการที่มหาเถรสมาคมของพม่าได้แสดงท่าทีออกห่างจากกลุ่มมะบะธาเป็นครั้งแรก ยิ่งเพิ่มการคาดการณ์ว่าเครือข่ายของกลุ่มมะบะธาอาจถูกยุบ
อ่อง โก รัฐมนตรีกระทรวงศาสนาคนใหม่ของพม่าได้ออกมากล่าวเตือนถึงผู้ที่เผยแพร่ถ้อยคำสร้างความเกลียดชัง
“อนาคตของกลุ่มมะบะธาอาจไม่แน่นอนหากพวกเขายังคงเผยแพร่ถ้อยคำที่สร้างความขัดแย้งระหว่างศาสนา…และในหมู่ชาติพันธุ์ รัฐบาลกำลังพยายามที่จะสร้างเสถียรภาพ” อ่อง โก กล่าว
นับเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีระดับสูงจากฝ่ายบริหารของอองซานซูจีจัดการกับกลุ่มมะบะธา ที่อิทธิพลของกลุ่มทำให้อองซานซูจีตัดสินใจไม่ส่งผู้สมัครที่เป็นชาวมุสลิมลงรับเลือกตั้งที่ผ่านมา
ซูจียังสร้างความผิดหวังให้กับกลุ่มเรียกร้องสิทธิมนุษยชนในช่วงไม่กี่เดือนแรกที่ซูจีครองอำนาจ เนื่องจากล้มเหลวที่จะประณามการไม่ยอมรับความต่างทางศาสนา รวมถึงเหตุการณ์การทำลายมัสยิด 2 แห่งของกลุ่มม็อบชาวพุทธเมื่อปลายเดือนก่อนหน้านี้ ทั้งที่มัสยิดทั้ง 2 ไม่ใช่ของชาวโรฮิงญา และยังถูกรื้อด้วยอำนาจนอกกฎหมายของกลุ่มมะบะธา
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มมะบะธาได้ฟื้นการรณรงค์ต่อต้านชาวโรฮิงญาขึ้นมาอีกครั้ง ที่พวกเขายืนยันว่ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นผู้อพยพผิดกฎหมายจากบังกลาเทศ
แม้ซูจีจะพยายามผ่อนคลายความไม่พอใจของชาวพุทธหัวรุนแรงด้วยการออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐเลี่ยงการใช้คำว่า โรฮิงญา และแทนที่ด้วยคำว่า ชาวมุสลิมในรัฐยะไข่ แต่กลุ่มมะบะธาปฏิเสธถ้อยความดังกล่าว และจัดชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้เรียกว่า เบงกาลี เท่านั้น
พม่ามีกำหนดที่จะเผยแพร่ข้อมูลการสำรวจสำมะโนประชากรในสัปดาห์หน้า ซึ่งนักวิเคราะห์ต่างวิตกว่า ชาวพุทธหัวรุนแรงอาจไม่พอใจหากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในประเทศนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นหลังหากมีการเผยแพร่ตัวเลขจริง หลังจากการทำสำรวจเพื่อกว่า 30 ก่อนพบข้อมูลมีชาวมุสลิมในพม่า 10% แต่ทางการตกแต่งตัวเลขและเผยข้อมูลว่ามีชาวมุสลิมในพม่าเพียง 4% โดยอ้างว่าเพื่อเลี่ยงการเคลื่อนไหวต่อต้านชาวมุสลิมในประเทศ