องค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) ประณามว่าเป็นการกระทำที่ “ผิดกฎหมาย” หลัง Jair Bolsonaro ประธานาธิบดีบราซิลใหม่ ประกาศให้ย้ายสถานทูตจากกรุงเทลอาวีฟไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ดินแดนของชาวปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง
worldbulletin รายงานว่า OIC กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์(3 พฤศจิกายน)ว่า “การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และมติที่เกี่ยวข้องของสหประชาชาติ”
ชาวมุสลิมในบราซิลเรียกร้องให้ประธานาธิบดีคนใหม่ให้การสนับสนุนโอกาสในการสร้างสันติภาพภายใต้แนวทางแก้ปัญหาสองรัฐเคียงคู่กัน
เมื่อวันศุกร์ที่(2)ผ่านมา สันนิบาตอาหรับก็ได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีบราซิลยกเลิกการตัดสินใจย้ายสถานทูตบราซิลในอิสราเอลไปยังกรุงเยรูซาเล็มเช่นกัน
เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ประธานาธิบดี Bolsonaro ของบราซิลได้ประกาศว่าเขาตั้งใจที่จะย้ายสถานทูตของประเทศจากกรุงเทลอาวีฟมายังกรุงเยรูซาเล็มหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมพ์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่มีลูกเขยเป็นชาวยิว ได้นำร่องในการย้ายสถานทูตสหรัฐฯไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อเป็นการยอมรับกรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล แม้จะเป็นการดำเนินการที่ขัดต่อมติสหประชาชาติ
ตั้งแต่นั้นมาความเป็นผู้นำปาเลสไตน์ในเมืองรอมัลเลาะห์ได้ปฏิเสธบทบาทคนกลางของสหรัฐฯในกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง
ชาวเยรูซาเล็มยังคงเป็นหัวใจสำคัญของความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยชาวปาเลสไตน์ต้องการให้เยรูซาเล็มตะวันออก – ซึ่งถูกอิสราเอลใช้กำลังบุกเข้ายึดครองตั้งแต่ปี 1967 เป็นเมืองหลวง ซึ่งเป็นไปตามมติที่ 242 ของสหประชาชาติ ที่ระบุให้อิสราเอลคืนดินแดนส่วนดังกล่าวให้กับปาเลสไตน์