รายงานข่าวระบุว่าอิสราเอลได้ล็อบบี้สหรัฐให้ช่วยรักษาสถานะของรัสเซียในซีเรียหลังยุคของอัสซาด เพื่อพยายามกดดันอำนาจของรัฐบาลใหม่ซีเรียให้อ่อนแอลงและต่อต้านอิทธิพลของตุรกีในซีเรีย
สำนักข่าวรอยเตอร์ซึ่งอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อ 4 รายที่ทราบเหตุการณ์ดังกล่าวรายงานว่า อิสราเอลได้จัดการประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐในวอชิงตันและกับตัวแทนรัฐสภาสหรัฐในอิสราเอลตลอดเดือนที่ผ่านมา เพื่อถ่ายทอดความกังวลของเทลอาวีฟเกี่ยวกับอำนาจใหม่ของซีเรีย
ตั้งแต่ที่กลุ่มนักรบฝ่ายต่อต้านเข้าปกครองซีเรีย และการล่มสลายของระบอบการปกครองของอัสซาดเมื่อเกือบ 3 เดือนที่แล้ว เจ้าหน้าที่อิสราเอลได้แสดงความกังวลซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับรัฐบาลใหม่ของซีเรีย และความทะเยอทะยานในระดับประเทศและระดับภูมิภาคของซีเรีย โดยกองกำลังอิสราเอลได้ยึดครองดินแดนซีเรียทางใต้ของกรุงดามัสกัสมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
นอกจากการพบปะกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แล้ว เจ้าหน้าที่อิสราเอลยังได้แสดงความเห็นของตนต่อสหรัฐฯ อย่างชัดเจนใน “white paper” ที่พวกเขาเขียนขึ้น โดยย้ำถึงความกลัวที่เห็นได้ชัดเกี่ยวกับภัยคุกคามต่อความมั่นคงที่ทางการซีเรียชุดใหม่และกลุ่มกบฏในอดีตอาจก่อขึ้นในเทลอาวีฟ
แหล่งข่าวเผยว่าเป้าหมายนโยบายหลักของอิสราเอลคือการแบ่งแยกและกระจายอำนาจในซีเรีย โดยเน้นที่การต่อต้านอิทธิพลของตุรกีที่แทรกซึมเข้ามาในประเทศที่เพิ่งได้รับอิสรภาพแห่งนี้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางความช่วยเหลือด้านการทูต ความปลอดภัย และโครงสร้างพื้นฐานของตุรกีต่อทางการชุดใหม่ในกรุงดามัสกัส
ในสายตาของเทลอาวีฟ วิธีที่มีประสิทธิผลวิธีหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว คือการขอความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ในการอำนวยความสะดวกให้รัสเซียสามารถรักษาฐานทัพเรือในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในทาร์ทัสและฐานทัพอากาศฮไมมิมในลาตาเกียไว้ให้ได้
แหล่งข่าวระบุว่า ผู้เข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคนรู้สึกประหลาดใจที่เจ้าหน้าที่อิสราเอลเชื่อว่าการที่รัสเซียยังคงประจำการอยู่ต่อไปจะเป็นการเคลื่อนไหวในเชิงบวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตุรกีในฐานะประเทศสมาชิกสำคัญของนาโตจะช่วยป้องกันการโจมตีอิสราเอลจากซีเรียทั้งในเชิงแนวคิดและในทางปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าอิสราเอล “ยืนกราน” ว่าจะไม่ทำตรงกันข้าม