อิสราเอลมีแผนที่จะป้องกันไม่ให้ชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับการปล่อยตัวภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนเชลยในฉนวนกาซาเข้าไปในมัสยิดอัล อักซอในเยรูซาเล็มตะวันออกที่ถูกยึดครองในช่วงเดือนถือศีลอด ตามรายงานของสื่ออิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์
สถานีวิทยุกระจายเสียงสาธารณะของอิสราเอล KAN รายงานว่าตำรวจจะไม่อนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับการปล่อยตัวในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวในช่วงรอมฎอน ซึ่งกำหนดจะเริ่มในสัปดาห์หน้า
สถานีวิทยุกระจายเสียงสาธารณะ KAN รายงานว่าตำรวจจะส่งเจ้าหน้าที่ 3,000 นายทุกวันไปที่จุดตรวจที่มุ่งหน้าไปยังเยรูซาเล็มตะวันออกและมัสยิดอัล อักซอในช่วงเดือนถือศีลอด
สถานีวิทยุกระจายเสียงดังกล่าวรายงานว่าตำรวจแนะนำให้ออกใบอนุญาตเพียง 10,000 ใบสำหรับชาวปาเลสไตน์จากเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครองเพื่อเข้าไปในมัสยิดอัล อักซอในช่วงรอมฎอน
สถานีวิทยุกระจายเสียง KAN รายงานว่าจะมีการออกใบอนุญาตให้กับผู้ชายที่อายุมากกว่า 55 ปีและผู้หญิงที่อายุมากกว่า 50 ปี
ทุกปี ชาวปาเลสไตน์ต้องเผชิญกับมาตรการจำกัดของอิสราเอลที่จำกัดการเข้าไปในมัสยิดอัล อักซอในช่วงเดือนรอมฎอน ท่ามกลางการยกระดับทางการทหารในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง
ชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนที่ถูกอิสราเอลกวาดจับตัวไปได้รับการปล่อยตัวเพื่อแลกกับเชลยชาวอิสราเอลหลายคนภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนที่แล้ว
มัสยิดอัล อักซอเป็นสถานที่สำคัญอันดับสามของโลกสำหรับชาวมุสลิม ชาวยิวเรียกพื้นที่นี้ว่าเทมเปิลเมาท์ โดยกล่าวว่าเป็นที่ตั้งของวิหารของชาวยิวสองแห่งในสมัยโบราณ
อิสราเอลยึดครองเยรูซาเล็มตะวันออก ซึ่งเป็นที่ตั้งของมัสยิดอัล อักซอ ระหว่างสงครามอาหรับ-อิสราเอลในปี 1967 และผนวกทั้งเมืองในปี 1980 โดยการเคลื่อนไหวที่ประชาคมระหว่างประเทศไม่เคยยอมรับ
ขณะที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคมว่าการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ของอิสราเอลมายาวนานเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และเรียกร้องให้อพยพผู้ตั้งถิ่นฐานทั้งหมดในเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออก