โรเบิร์ต เวิร์ค รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องวานนี้ (28 ม.ค.) ให้องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) พัฒนาและสร้างอาวุธที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาให้มากกว่านี้อีก และระบุว่าเพื่อที่จะนำหน้าการพัฒนาอาวุธอันรวดเร็วของจีน, รัสเซีย และประเทศอื่นๆ ได้ต่อไป การดำเนินการที่เด่นชัดเป็นสิ่งจำเป็น
เวิร์ค กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) มีแผนการใหม่เรียกว่า “Defense Innovation Initiative” (การริเริ่มนวัตกรรมด้านความมั่นคง) และมีอีกความพยายามซึ่งพุ่งเป้าที่โครงการต่างๆ ที่กินเวลานานกว่านั้น เพื่อทำให้แน่ใจว่าสหรัฐฯจะยังคงมีความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างเด็ดขาดเหนือประเทศที่อาจจะมาเป็นคู่แข่งได้ต่อไป
“เราจำเป็นต้องประสานงานและร่วมมือกัน, หลีกเลี่ยงการลอกเลียน, ยกระดับขีดความสามารถเฉพาะกลุ่ม และผลักดันสถาบันต่างๆ ของเราให้สร้างสรรค์เทคโนโลยี, คอนเซ็ปต์, การทดลอง และการจำลองปฏิบัติการทางทหารใหม่ๆ ออกมา” เวิร์คกล่าวในการประชุมที่ศูนย์ความมั่นคงอเมริกันใหม่ (New American Security) เป็นเจ้าภาพ เขาเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่นาโตจะต้องทำตามคำมั่นที่พวกเขาให้ไว้ในการประชุมเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ที่ว่าจะใช้จ่าย 2 เปอร์เซ็นต์ของผลผลิตของประเทศไปกับด้านความมั่นคง
เวิร์คกล่าว่า มันมีความจำเป็นที่จะต้องยกระดับความร่วมมือกับบรรดาพันธมิตรในนาโต, เอเชีย และด้านอื่นๆ ไล่ตั้งแต่การวางแผนภารกิจไปจนถึงการลงทุนในโครงการอาวุธใหม่ๆ
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาอาวุธจากประเทศอื่นๆ เป็นเหตุผลสำคัญที่แผนงบประมาณปี (การเงิน) 2016 ของเพนตากอนที่จะถูกส่งไปให้สภาคองเกรสในวันจันทร์ (2 ก.พ.) จะสูงกว่าเพดานงบประมาณที่กำหนดโดยสภาคองเกรสและสวนทางกับการจับจ่ายทางการทหารของแดนอินทรีที่ตกต่ำมากว่า 5 ปี
เวิร์คไม่ได้ให้ข้อมูลใดๆ ก่อนการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่ระบุว่า งบประมาณก้อนนี้จะประกอบด้วย การลงทุนด้านอาวุธนิวเคลียร์, ความสามารถด้านการควบคุมในอวกาศ, เซ็นเซอร์ชั้นสูง การป้องกันขีปนาวุธ, ไซเบอร์, พาหนะไร้คนขับใต้ทะเล, การทำเหมืองกลางทะเล, อาวุธโจมตีความเร็วสูง, เครื่องยนต์เครื่องบินขับไล่ชั้นสูง, เลเซอร์พลังงานสูง และเทคโนโลยีปืนแม่เหล็กไฟฟ้าแบบรางคู่ขนาน (Railgun)
เวิร์คกล่าวว่า แผนการเหล่านี้จำเป็นต่อการจัดการกับภัยคุกคามที่แตกต่างกันในภูมิภาคที่ต่างกันออกไป และควรจะให้บริษัทการค้าด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์, เทคโนโลยีปฏิบัติการด้วยตนเอง และเทคโนโลยีที่สำคัญอื่นๆ เข้ามามีส่วนช่วยให้เกิดความก้าวหน้า
บริษัท ล็อคฮีด มาร์ติน, โบอิ้ง และผู้ผลิตอาวุธรายสำคัญอื่นๆ เรียกร้องหลายต่อหลายครั้งให้เพนตากอนเพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยีที่สำคัญต่างๆ ให้มากขึ้น
แฟรงค์ เดนดอล ผู้ซื้ออาวุธของเพนตากอน บอกกับคณะกรรมาธิการกิจการทหารสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในการไต่สวนครั้งหนึ่งว่า เขาเป็นกังวลอย่างมากถึงการที่ จีน, รัสเซีย และประเทศอื่นๆ ลงทุนอย่างหนักหน่วงในอาวุธต่างๆ ที่ออกแบบมาโดยมามีเป้าหมายที่ศักยภาพกองทัพสหรัฐฯ อย่างเช่น เรือบรรทุกเครื่องบิน และดาวเทียม
