อังกฤษเรียกตัวเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำลอนดอนเข้าพบในวันพฤหัสบดี(29ม.ค.) และขอให้ชี้แจงกรณีเครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกล 2 ลำของมอสโก บินเฉียดใกล้น่านฟ้าของอังกฤษหนึ่งวันก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางการบินเครื่องบินพลเรือนเพื่อป้องกันเหตุร้าย
ความเคลื่อนไหวเรียกตัวทูตเข้าชี้แจงครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเกิดเหตุลักษณะแบบเดียวกันมาแล้วหลายรอบ และยังมีขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างอังกฤษกับรัสเซียต่อความขัดแย้งในยูเครน เช่นเดียวกับกรณีที่ลอนดอนเปิดฉากการไต่สวนคดีอเล็กซานเดอร์ ลิตวิเนนโก อดีตสายลับรัสเซียถูกวางยาพิษ
กระทรวงกลาโหมอังกฤษเผยว่าเหตุล่วงล้ำและเฉียดใกล้น่านฟ้าโดยเครื่องบินรัสเซียครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อเร็วๆนี้ เกิดขึ้นราวๆ 1 เดือนที่่ผ่านมา และเหตุล่าสุดเมื่อวันพุธ(28ม.ค.) เกิดขึ้นที่ชายฝั่งทางใต้ของอังกฤษ ซึ่งเครื่องบินของมอสโกที่เกี่ยวข้องคือเครื่องบินทิ้งระเบิดตูโปเลฟ ตู-95
ส่วนถ้อยแถลงของกระทรวงการประเทศอังกฤษ ระบุว่า “การบินหลบหลีกของเครื่องบินรัสเซียเมื่อวานนี้ เป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบปฏิบัติการนอกพื้นที่ของเครื่องบินรัสเซียที่พบเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ แม้เครื่องบินทั้ง2 ลำของรัสเซียไม่ได้เข้ามาในน่านฟ้าของอังกฤษ และถูกเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศเข้าประกบตลอดช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ในพื้นที่ผลประโยชน์ของอังกฤษ แต่มันได้ก่อความวุ่นวายด้านการบินพลเรือน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงเรียกเอกอัครราชทูตรัสเซียเข้าพบในวันนี้”
โฆษกองค์การการบินพลเรือน บอกว่าเครื่องบินทิ้งระเบิดรัสเซียบินเฉียดใกล้น่านฟ้า กระตุ้นให้กองทัพต้องส่งเครื่องบินขับไล่เข้ากระทบ และผลก็คือมันก่อความวุ่นวายด้านการบินพลเรือน
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน เรือรบของกองทัพเรือรัสเซียลำหนึ่งถูกพบกำลังล่องผ่านช่องแคบอังกฤษ ทำให้เรือลาดตระเวนของกองทัพเรืออังกฤษต้องเข้าประกบทันที